สมชัย หวั่นเกิดปัญหา คำสั่งศาลรธน.ไม่ชี้ชัดเครือข่ายใดต้องยุติการกระทำ

Home » สมชัย หวั่นเกิดปัญหา คำสั่งศาลรธน.ไม่ชี้ชัดเครือข่ายใดต้องยุติการกระทำ


สมชัย หวั่นเกิดปัญหา คำสั่งศาลรธน.ไม่ชี้ชัดเครือข่ายใดต้องยุติการกระทำ

สมชัย ห่วงศาลรธน.ไม่ชี้ชัดเครือข่ายใดบ้างต้องเลิกการกระทำ ปมล้มล้างการปกครอง อาจเป็นปัญหาในอนาคต เชื่อแก้ ม.112 ยังเดินต่อได้ ไม่ใช่การยกเลิก

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผอ.ศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตกกต. กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการกระทำของ 3 แกนนำม็อบราษฎร เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่า ต้องดูรายละเอียดในคำวินิจฉัยเพิ่มเติม โดยเฉพาะเนื้อหาของสิ่งที่เป็นการล้มล้างการปกครอง ทั้ง 10 เรื่อง จะต้องดูทีละเรื่อง

ตนคิดว่าการเหมารวมทั้ง 10 เรื่อง เป็นการล้มล้างการปกครองอาจจะไม่ถูกต้อง เพราะตนดูเบื้องต้นในเรื่องที่ 9 เป็นการเรียกร้องให้เกิดความเป็นธรรมในคดีอาญา บอกว่าคนที่ถูกอุ้มสูญหาย คนที่ถูกฆ่าตาย ขอให้มีการสืบสวนโดยเร็ว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับสถาบัน เป็นการเรียกร้องความเป็นธรรมในคดีอาญาทั่วไป ซึ่งตนคิดว่าประชาชนทุกคน ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องเหล่านี้ก็ควรเรียกร้องได้

นายสมชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของผลที่จะเกิดขึ้นหลังมีคำวินิจฉัยนั้น ทั้ง 3 คนที่ศาลชี้ว่าห้ามกระทำ ศาลมีสิทธิสั่งให้ยุติการกระทำ ส่วนที่บอกว่าให้กลุ่มองค์กรเครือข่ายเลิกกระทำการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วยนั้น คิดว่าอาจเป็นคำที่กว้าง เพราะเราไม่รู้ว่าใครคือเครือข่ายอื่นๆ ที่ต้องยุติการกระทำ ไม่แน่ใจว่าใครคือเครือข่าย ศาลไม่ได้ชี้ชัดเจน ความจริงดีที่สุดคือต้องชี้ชัดว่าประกอบด้วยเครือข่ายอะไรบ้างให้หยุดการกระทำ ซึ่งจะเป็นปัญหาว่าต่อจากนี้คนที่ทำเป็นเครือข่ายหรือไม่ใช่เครือข่าย

นอกจากนั้นการที่ศาลสั่งให้ยุติการกระทำในอนาคตนั้น ตนอ่านรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 แล้วคิดว่าไปไม่ถึง เพราะมาตรา 49 เพียงแค่ว่าหากศาลเห็นว่าผิดให้สั่งให้ยุติการกระทำในปัจจุบัน แต่ในอนาคต เป็นเรื่องที่อาจจะไกลเกินกว่ารัฐธรรมนูญหรือไม่

เมื่อถามว่ามีการพูดถึงว่าจะเอาเรื่องนี้ไปเป็นสารตั้งตันยื่นยุบพรรคก้าวไกลนั้น นายสมชัย กล่าวว่า เป็นกระบวนการทางการเมือง เข้าใจว่าในทางการเมืองอาจมีคนที่มีความเห็นและจุดยืนแตกต่างกัน และการมุ่งทำลายล้างก็จะแตกต่างกัน จึงต้องรอดูผลที่เกิดขึ้น แม้ในมาตรา 49 จะบอกว่าไม่มีผลทางอาญาก็ตาม แต่ตนคิดว่าคงจะเอาเป็นส่วนหนึ่งที่จะร้องดำเนินคดีอาญาต่อบุคคล หรือคณะบุคคล เชื่อว่าคงมีการร้องแน่ แต่ศาลก็ตัดสินโดยอิสระไม่ได้ผูกพันกับเรื่องนี้ แต่มีน้ำหนักไปในทางว่าหากว่าศาลเคยชี้ทำนองนี้แล้ว น้ำหนักทางอาญาก็มีแนวโน้ม มีความเป็นไปได้ที่จะออกมาในเชิงที่สอดคล้องกัน

เมื่อถามว่ากรณีที่เสนอให้ยกเลิกมาตรา 112 จะเข้าข่ายในกรณีนี้ด้วยหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ถ้าตีตามตัวอักษร การยกเลิกมาตรา 112 เป็น 1 ใน 10 ข้อเสนอในการชุมนุมดังกล่าว การเสนอให้ยกเลิกมาตรา 112 คงจะไม่ได้ แต่เสนอให้ปรับปรุงน่าจะได้ ซึ่งสภาเอง ถ้าคิดว่ากฎหมายฉบับใดมีความจำเป็นต้องปรับปรุง ก็ปรับปรุง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ