FootNote:กลยุทธ์สกัดขัดขวาง ‘เพื่อไทย’ กลยุทธ์สกัดขัดขวาง ‘ก้าวไกล’
ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของ นายศรีสุวรรณ จรรยา ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนของ นายสนธิญา สวัสดี มีเป้าหมายเดียวกัน
นั่นก็คือ ต้องการสกัดขัดขวางพรรคเพื่อไทย นั่นก็คือต้องการสกัดขัดขวางพรรคก้าวไกล
เหมือนกับว่า ‘นักร้อง’ เหล่านี้จะดำเนินการไปอย่างเอกเทศ และเป็นอิสระ ต้องการเห็นทิศทางในทางการเมืองถูกต้องชอบด้วยกฎระเบียบในทางการเมือง แต่เป้าหมายก็ยังเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล
จึงเด่นชัดยิ่งว่าเป้าหมายโดยพื้นฐานต้องการให้พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล เกิดอาการสะดุดไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่เต็มพิกัด
กระนั้น เป้าหมายอย่างถึงที่สุดก็คือให้เกิด ‘การยุบพรรค’
เป็นยุทธวิธีที่เหมือนกับเคยทำมาแล้วในกรณีพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และล่าสุดในกรณีของพรรคอนาคตใหม่
และกรณีพรรคไทยรักษาชาติก่อน ‘การเลือกตั้ง’ จะเกิดขึ้น
แม้ยุทธวิธี ‘ยุบพรรค’ จะสะท้อนออกอย่างเด่นชัดจากกรณีของพรรคไทยรักไทย ว่าไม่ประสบความสำเร็จ เพราะที่ตามมาคือพรรคพลังประชาชน เมื่อยุบพรรคพลังประชาชนก็เกิดพรรคเพื่อไทย
หรือสดๆร้อนๆจากกรณีการยุบพรรคอนาคตใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ก็ปรากฎพรรคก้าวไกลอย่างฉับพลันทันใด
กระนั้นก็ต้องยอมรับว่า เมื่อมีการยุบพรรคไทยรักไทยก็เกิดภาวะระส่ำระสาย เมื่อมีการยุบพรรคพลังประชาชนก็เกิดภาวะระส่ำระสาย เกิดสภาพ ‘งูเห่า’ แยกตัวทางการเมืองตามมา
เป็นสภาพที่พรรคเพื่อไทยก็ไม่เต็มร้อยเหมือนก่อน เป็นสภาพที่พรรคก้าวไกลก็ไม่เต็มร้อยเหมือนก่อน
ยิ่งเป็นการยุบเหมือน ‘ไทยรักษาชาติ’ ยิ่งปั่นป่วน โกลาหล
อาวุธในแบบเคลื่อนไหวของ ‘นักร้อง’ ที่นำไปสู่การยุบพรรค จึงดำรงอยู่เหมือนกับเป็นกลยุทธ์สุดวิเศษ ไม่ว่าจะมาจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะมาจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย
เป็นการตัดแขนขาและการเคลื่อนไหวเพื่อไทย ก้าวไกล
หรือถึงไม่สามารถยุบพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลได้ก็เจาะทะลวงเพื่อให้เกิดความแตกแยก ต่อสู้กันเองของ 2 พรรคนี้
ยิ่งเพื่อไทย ก้าวไกล ขัดแย้งยิ่งสร้างความพึงใจเป็นอย่างสูง