กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง เตือนอันตรายจากสารปรอท พบได้มากในการผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่าสารปรอทไม่ใช่สารอันตรายตัวใหม่ที่เพิ่งใช้ในสังคมไทย โดยช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา สารปรอทเคยเป็นสารอันตรายอันดับหนึ่งของเครื่องสำอางที่ใช้ในไทยมาก่อน ซึ่งจะนิยมผสมในครีม เมื่อมีกระแสความนิยมของการมีผิวขาวเพิ่มขึ้นทำให้มีการลักลอบใช้ปรอทในเครื่องสำอางเพื่อรักษาฝ้า จุดด่างดำ หรือทำให้ผิวขาว สารปรอทเป็นสารอันตรายที่พบบ่อยสุด รองลงมาคือ สารไฮโดรควิโนน และกรดวิตามินเอ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งเพราะพิษของของสารปรอทนั้นมีผลกระทบต่อหลายระบบของร่างกาย
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติม พิษที่สำคัญของสารปรอทต่อร่างกาย คือ
- พิษต่อผิวหนัง แม้ว่าสารปรอทจะมีผลทำให้เม็ดสีลดลง แต่พบว่าอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ หากใช้ในระยะยาว จะทำให้ผิวบางลง เกิดจุดดำที่ผิวเพิ่มขึ้น เกิดฝ้าถาวร หรือในบางจุดจะทำให้เกิดผิวด่างถาวร
- พิษต่อระบบประสาท ทำให้มีอาการสั่น ปลายประสาทอักเสบ การทรงตัวผิดปกติ ชักกระตุก ซึมเศร้าหรือเกิดประสาทหลอนได้
- พิษต่อตับและไต ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ และไตอักเสบได้ในระยะยาว
- พิษต่อระบบเลือด ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง
- หากใช้ระหว่างตั้งครรภ์ สารปรอทจะดูดซึมสู่ทารก และมีความเสี่ยงที่จะทำให้ทารกสมองพิการและปัญญาอ่อนได้
ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า ควรเลือกใช้เครื่องสำอางจากแหล่งที่เชื่อถือได้มากที่สุด กรณีที่ใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแล้วเกิดผลข้างเคียงแนะนำให้หยุดการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นทันทีและรีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือหากสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้อยู่มีสารอันตรายผสมอยู่หรือไม่ สามารถส่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาขอรับการตรวจสอบสารอันตรายเบื้องต้นได้ที่ สถาบันโรคผิวหนัง (โครงการตรวจสารอันตรายในเครื่องสำอาง) 420/7 ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด