ดีแทคประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/64 ส่งมอบประสบการณ์การให้บริการลูกค้าผ่านการขยายเครือข่ายย่านความถี่ต่ำ ไปพร้อมกับการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างเครือข่ายและการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม และยืนหยัดได้ ทำให้ผลการดำเนินงานมีกำไรเป็นที่น่าพอใจ
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้เห็นแนวโน้มประสบการณ์ใช้งานของลูกค้าที่ดีขึ้นต่อเนื่องหลังการเร่งขยายเครือข่าย เรามีสถานีฐานมากกว่า 11,800 แห่งบนคลื่น 700 MHz และครอบคลุมประชากรร้อยละ 93 ด้วยสัญญาณ 4G ภายในสิ้นปีนี้
ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลให้คะแนนความพึงพอใจของเครือข่ายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน แต่ยังเพิ่มการใช้งาน 4G และส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบระหว่างผู้ใช้งานคลื่น 700 MHz กับผู้ที่ไม่ใช้งานคลื่น 700 MHz เป็นเครื่องยืนยันว่ากลยุทธ์การลงทุนเครือข่ายของเรานั้นมีประสิทธิภาพ
ไตรมาสสามนี้ มีความท้าทายจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลงตามข้อจำกัดที่เกี่ยวกับโควิด-19 อย่างไรก็ตาม เรายังคงดำเนินตามกลยุทธ์ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และได้ทำการตลาดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริการเสริมต่าง ๆ (Adjacent services) ที่สร้างมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมาสู่ลูกค้า
โดยพิจารณาถึงปัญหาและความต้องการของลูกค้าเมื่อนำเสนอบริการ เราสร้างสรรค์บริการที่มีความหมาย มีความสำคัญกับลูกค้าของเราทุกคน ให้ลูกค้าได้รับความสะดวกจากการชำระค่าบริการในบิลเดียว ข้อเสนอจากบริการใจดีที่แตกต่าง ส่งผลให้มีการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นในแต่ละไตรมาส เราได้ออกแบบข้อเสนอในการเล่นเกมเพื่อคว้าโอกาสทางการตลาดที่กำลังเติบโต ด้วยการนำเสนอ Gaming Nation ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเติมเกมและข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับเกมทั้งหมด ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์ข้อเสนอที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้านอกเหนือจากบริการหลักอย่างการเชื่อมต่อ
ด้วยจุดยืนของการให้บริการที่เป็นมากกว่าผู้ให้บริการโทรคมนาคม ดีแทคจะเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อนำเสนอคุณค่าใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า ขณะที่การเดินหน้ายกระดับประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจยังช่วยให้เราสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย”
ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/64 ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมดอยู่ที่ 19.3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 26,000 รายจากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นมากกว่า 400,000 รายจากสิ้นปีก่อน รายได้ค่าบริการไม่รวม IC ลดลงร้อยละ 2.1 จากไตรมาสก่อน และร้อยละ 2.8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน EBITDA สำหรับไตรมาส 3/64 มีมูลค่า 7,443 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.7 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 4.0 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน EBITDA margin (normalized) อยู่ที่ร้อยละ 47.5 ในไตรมาสที่ 3/64 กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3/64 คิดเป็น 832 ล้านบาท
นายนกุล เซห์กัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “จำนวนลูกค้าสุทธิยังคงเป็นบวก แม้จะมีการปิดศูนย์บริการไปช่วงหนึ่งจากสถานการณ์โควิด-19 และในขณะเดียวกันก็ดำเนินการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพได้ต่อเนื่อง ซึ่งผลจากการมุ่งเน้นที่การลดต้นทุนของเครือข่ายเชิงโครงสร้าง และการบริหารประสิทธิภาพโครงข่ายและระบบไอที ทำให้เราสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านโครงข่ายได้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แม้ว่าเราจะอยู่ในช่วงของการเร่งขยายเครือข่ายก็ตาม และ EBITDA margin ของเราก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับร้อยละ 47.5”
ด้วยผลกระทบจากสถานการณ์โควิด -19 ในไตรมาสที่ 3/64 ดีแทคคาดการณ์แนวโน้มรายได้จากการให้บริการและ EBITDA จะออกมาอยู่ในช่วงต่ำของแนวโน้มสำหรับปี 2564 ที่เคยให้ไว้ โดยคาดว่ารายได้จากการให้บริการ ไม่รวม IC จะลดลงในอัตราร้อยละที่เป็นเลขหลักเดียวในระดับต่ำ และ EBITDA จะคงที่ และมี ค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ 1.3 -1.5 หมื่นล้านบาท
ตัวเลขสำคัญทางการเงินในไตรมาส 3/64 (หลัง TFRS 15 และ 16)
- รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่า IC 13,978 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 2.8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
- EBITDA อยู่ที่ 7,443 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.7 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 4.0 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
- อัตรากำไร EBITDA (normalized) อยู่ที่ร้อยละ 47.5
- กำไรสุทธิ 832 ล้านบาท