เมื่อเวลา 18.00 น.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ปกครองเยาวชนส่วนหนึ่งจากพื้นที่ตำบลด่านแม่ละเมา กับพื้นที่ เขตเทศบาลนครแม่สอด ได้เดินทางมาพบกับสื่อมวลชนในพื้นที่ อ.แม่สอด เพื่อเข้าร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากรณีเหล่าบรรดาลูกหลานของตนซึ่งเป็นเยาวชนเป็นชายทั้งหมดอายุระหว่าง 16-19 ปี จำนวน 10 คน ซึ่งใน 10 คนเหล่านี้เยาวชนหลายรายยังเรียนหนังสืออยู่ในสถาบันมีชื่อของแม่สอด

โดยนายเปง คำวัน อายุ 76 ปี กับ นางจันทร์ ทิยานัน อายุ 73 ปี อยู่ที่ หมู่ที่ 9 ตำบลด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด  เป็นทั้งผู้ปกครองและเป็นตาเป็นยายของเยาวชนกลุ่มนี้ เล่าว่า ตั้งแต่ประมาณวัน 13-14 กันยายน 2564 มีกลุ่มคนไทยที่อ้างตัวเป็นโบรกเกอร์ มาชักชวนเยาวชนกลุ่มนี้ให้ไปทำงานเป็นแอดมิน ตอบคำถามออนไลน์ให้กับกลุ่มบ่อนการพนันออนไลน์ ในบ่อนฝั่งประเทศเมียนมา โดยเสนอค่าตอบแทนเดือนละ 24,000 บาท พร้อมที่พักและอาหาร วันหยุด แต่เมื่อเดินทางไปถึง ทั้งหมดถูกขายต่อไปยังบ่อนการพนันของชาวจีน ถูกให้ทำสัญญาซึ่งเป็นภาษาจีน ซึ่งทั้งหมดก็อ่านภาษาจีนไม่ได้ จำใจต้องเซ็นสัญญา

นายภราดร บิดาของเยาวชนอีก 1 ราย ชาวแม่สอด เล่าอีกว่า หลังจากไปฝั่งเมียนมาทุกคนต้องเริ่มทำงาน  ซึ่งตั้งแต่ครั้งแรกก็ไม่ตรงตามสัญญาที่กลุ่มโบรกเกอร์บอกไว้  ลูกของตนและเพื่อนๆต้องทำงานเกินเวลา แทบไม่ได้พักผ่อน ทำงานเกี่ยวกับเงินดิจิทัล บิทคอยน์ หลอกให้คนไทยมาลงทุน มีการข่มขู่ หักค่าที่พัก อาหาร รวมทั้งเริ่มกักขัง ไม่ให้ออกไปไหน ล่าสุดทุบกล้องโทรศัพท์ และสุดท้ายหากอยากกลับประเทศไทย ต้องเสียเงินให้กับบ่อน คนละ 9 หมื่นบาท จึงจะกลับประเทศไทยได้ ซึ่งหากครอบครัวมีเงิน 9 หมื่นบาท จะส่งลูกไปทำงานทำไม ที่ส่งไปก็เพราะครอบครัวไม่มีเงิน

นางจันทร์ ทิยานัน อายุ 73 ปี ถึงกับยกมือไหว้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้หลานของตนเอง 1 ใน 10 เยาวชน ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย เพราะตนเองเลี้ยงมาดูแลหลานมาตลอด พึ่งปล่อยให้ไปทำงานนอกบ้านครั้งแรก เพราะความที่หลานเห็นว่าจะได้เงิน 24,000 บาท