นอกจากการรักษาโรคซึมเศร้าตามวิธีของจิตแพทย์แล้ว อาหารยังเป็นตัวช่วยปรับอารมณ์ของผู้ป่วยให้มีอาการดีขึ้นได้ด้วย โดยเฉพาะอาหารที่มี “โอเมก้า 3” เช่น ปลา และธัญพืชต่างๆ
โอเมก้า 3 คืออะไร?
โอเมก้า 3 (Omega-3) คือกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ประกอบด้วยกรดไขมันอีพีเอ ดีเอชเอ และแอลฟาไลโนเลนิก ซึ่งจำเป็นต่อระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกาย แต่เป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้ด้วยตนเอง ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของโอเมก้า 3 เช่น ปลา เมล็ดพืช ธัญพืช ต่างๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
โอเมก้า 3 ไขมันดีต่อใจ
โอเมก้า 3 นอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆ ด้านแล้ว ยังขึ้นชื่อว่าเป็นไขมันดี ที่ดีต่อ “ใจ” ทั้งในแง่ของสุขภาพหัวใจ และสุขภาพจิตใจด้วย
การรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เช่น รับประทานปลาอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และดีเอชเอในโอเมก้า 3 ช่วยพัฒนาสมองโดยเฉพาะในส่วนของความจำและการเรียนรู้อีกด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึงช่วยลดระดับไตรลดอัตราการเต้นของหัวใจ และลดความดันโลหิต
ในส่วนของสุขภาพจิต กรดโอเมก้า 3 เป็นสารอาหารที่ช่วยทำให้อารมณ์ดี เพราะส่งผลต่อการทำงานของเซโรโทนินในสมอง โดยโอเมก้า 3 ช่วยเพิ่มเซโรโทนิน สารสื่อประสาทที่ช่วยควบคุมอารมณ์โกรธ ก้าวร้าว เป็นตัวแปรสำคัญในการทำให้เกิดนิสัยวิตกกังวล และยังมีผลต่อการเกิดโรคซึมเศร้า การรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 จึงช่วยป้องกันและลดอาการซึมเศร้าสมาธิสั้นและโรคอารมณ์แปรปรวนได้
โอเมก้า 3 มีอะไรบ้าง?
อาหารที่มีโอเมก้า 3 ได้แก่
- ปลา ทั้งปลาทะเล และปลาน้ำจืด เช่น แซลมอน แมคเคอเรล รวมถึงปลาไทยอย่าง ปลากะพงขาว ปลาสำลี ปลาอินทรี ปลาทู ฯลฯ เป็นต้น
- ธัญพืช และถั่วต่างๆ เช่น เมล็ดเจีย เมล็ดแฟล็กซ์ วอลนัท ถั่วเหลือง ฯลฯ
- ดาร์คช็อกโกแลต
- น้ำมันจากเมล็ดพืชต่างๆ
- อาหารทะเล เช่น หอยนางรม
- สาหร่าย
- ไข่
เป็นต้น
เมื่อไรที่อยากอารมณ์ดี หันมารับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 ทุกวัน ทุกสัปดาห์ และออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ และหากิจกรรมที่ชอบทำเพื่อผ่อนคลายความเครียด รับรองว่าอาการซึมเศร้า และโรคเครียดต่างๆ ดีขึ้นแน่นอน แต่หากยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป