โฆษกกระทรวงกลาโหม ปฏิเสธข่าวการร่วมกับภาคเอกชนสั่งซื้อและนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ ยืนยันไม่เคยติดต่อตรงกับบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
วันนี้ (3 ส.ค.) พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวปฏิเสธถึงกรณีมีการให้ข่าวจากภาคเอกชนว่า จะมีการลงนามในสัญญาร่วมกันสั่งนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ว่า ขอยืนยันว่าขณะนี้ กห.และหน่วยงานในสังกัด ยังไม่มีแผนหรือความตกลงร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนใดๆ ในการสั่งซื้อหรือนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์แต่อย่างใด และที่ผ่านมา กห.ก็ยังไม่เคยติดต่อตรงกับบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ต่อเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ การออกมาปฏิเสธดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สำนักข่าวแห่งหนึ่งเผยแพร่บทสัมภาษณ์ นพ.บุญ วนาสิน ผู้บริหารเครือโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งระบุว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีการเซ็นสัญญาร่วมกับหน่วยงานของกระทรวงกลาโหม (ในเวลาต่อมามีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในบทสัมภาษณ์จาก หน่วยงานกระทรวงกลาโหม เป็น หน่วยงานรัฐ) ที่เป็นหน่วยงานนำเข้าวัคซีน “ไฟเซอร์” แต่ยังไม่ขอระบุจำนวนว่ากี่ล้านโดส เพราะยังติดเงื่อนไขที่ไม่สามารถพูดอะไรได้มาก
นอกจากนี้ นพ.บุญ ยังเปิดเผยเพิ่มเติมผ่านสำนักข่าวดังกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ เนื่องจากกว่าที่จะหาหน่วยงานนำเข้าวัคซีนได้ ก็ใช้เวลานานถึง 2 เดือน เพราะไม่มีหน่วยงานใดกล้าที่จะเป็นหน่วยงานประสานงาน ทำให้ตนต้องเสียเงินวางมัดจำไปถึง 2 ครั้ง เพราะผิดนัดตามเงื่อนไข 10% เป็นจำนวนเงิน 500-600 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังติดปัญหาขั้นตอนการนำเข้าที่กระทรวงการต่างประเทศต้องมีการล็อค Number และเช็กกับทางไฟเซอร์
อย่างไรก็ตาม เจ้าของเครือโรงพยาบาลเอกชนรายนี้ ยืนยันว่า ภายในเดือนสิงหาคม 2564 นี้ ประชาชนจะได้รับการฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์” อย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ในส่วนของตนเอง ได้มีการเช่าสถานที่เพื่อรองรับการฉีดวัคซีนไว้หมดแล้ว