![ชายวัย 52 เป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร หมอชี้ 5 อาหารที่เก็บไว้นานในตู้เย็นคือ "ต้นตอ" ชายวัย 52 เป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร หมอชี้ 5 อาหารที่เก็บไว้นานในตู้เย็นคือ "ต้นตอ"](https://s.isanook.com/ns/0/ud/1944/9720634/new-thumbnail1200x720(5)(5).jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
ตกใจกันทั้งบ้าน ชายวัย 52 ปี ป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร แพทย์ชี้ให้เห็น 5 อาหารที่เก็บไว้นานในตู้เย็นคือ “ต้นตอ” ของมะเร็ง
คุณลี่เป็นชายวัยกลางคนใกล้จะอายุครบ 52 ปี ในประเทศจีน เขาเป็นคนขยันตลอดชีวิตและเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อครอบครัว แต่โชคชะตากลับดูเหมือนจะเล่นตลกกับเราเสมอ
เมื่อไม่นานมานี้คุณลี่เริ่มรู้สึกไม่สบายที่ท้อง ในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นอาการป่วยกระเพาะเก่ากลับมา แต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก จนกระทั่งอาการปวดท้องอย่างรุนแรงทำให้เขาเกือบหมดสติที่บ้าน จึงทำให้ครอบครัวพาเขาไปโรงพยาบาล
หลังจากการตรวจสอบอย่างละเอียด แพทย์ได้แจ้งข่าวร้ายให้ฟัง เขาป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ข่าวนี้ทำให้คุณลี่และครอบครัวตกใจอย่างมาก
คุณลี่มักให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเอง แต่ทำไมถึงเกิดโรคร้ายแรงเช่นนี้ขึ้นมา? การสอบถามประวัติสุขภาพและพฤติกรรมการใช้ชีวิตเผยให้เห็นรายละเอียดบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเก็บอาหารในตู้เย็นเป็นเบาะแสสำคัญ
พฤติกรรมการกินของคุณลี่เริ่มจากการที่เขาเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องทำงานหนักและมักทำงานล่วงเวลา กลับบ้านในสภาพหิว เขาจึงมักซื้ออาหารจำนวนมากในช่วงสุดสัปดาห์แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น ใช้ “คลังเก็บอาหาร” นี้เพื่อแก้ปัญหาภายในไม่กี่วันข้างหน้า
ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และแม้กระทั่งอาหารเหลือสามารถพบได้ในตู้เย็นของคุณลี่ หลายคนไม่รู้ว่าพฤติกรรมการกินที่ดูสะดวกสบายนี้ซ่อนความอันตรายที่เป็นระเบิดเวลาต่อสุขภาพ
แพทย์อธิบายว่าแม้ว่าตู้เย็นจะช่วยยืดอายุการใช้งานของอาหาร แต่ไม่ใช่ว่าทุกกรณีจะปลอดภัย
นี่คือ 5 ประเภทอาหารที่ไม่ควรเก็บในตู้เย็นนานเกินไป เพราะมันอาจกลายเป็นต้นตอของสารพิษและผู้สมรู้ร่วมคิดที่ทำให้เกิดมะเร็ง
อาหาร 5 ประเภทที่ไม่ควรเก็บในตู้เย็นนานเกินไป
ผักใบเขียว เช่น ผักโขม กะหล่ำปลี ผักกาดหอม ฯลฯ มีไนเตรตในปริมาณที่พอสมควร เมื่อเก็บไว้ในตู้เย็นนานเกินไป ไนเตรตในผักเหล่านี้อาจถูกเปลี่ยนเป็นไนไตรท์ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
โดยเฉพาะผักใบเขียวที่ผ่านการทอดหรือผัดด้วยน้ำมัน ซึ่งปริมาณไนไตรท์อาจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหากเก็บไว้ในตู้เย็นเกิน 16 ชั่วโมง
2. เนื้อสัตว์ที่ถูกแช่แข็งแล้วละลายหลายครั้ง
เมื่อเนื้อสัตว์ถูกละลายหลายครั้งและเก็บไว้ในตู้เย็น จะเกิดการสะสมของแบคทีเรียและสารพิษที่อาจเป็นอันตราย เช่น สารก่อมะเร็งอย่าง P-ammonium dinitrate ซึ่งความเข้มข้นของสารเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นตามความถี่ในการแช่แข็งและละลาย และอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งหลังการบริโภค
ดังนั้นควรแบ่งเนื้อออกเป็นถุงเล็กๆ และใช้ในปริมาณที่ต้องการเพื่อหลีกเลี่ยงการแช่แข็งและละลายหลายครั้ง
3. อาหารเหลือ
อาหารเหลือสามารถก่อให้เกิดแบคทีเรียและเชื้อราที่ผลิตสารพิษหลังจากเก็บไว้ในตู้เย็นเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ที่มีโอกาสเสื่อมสภาพได้ง่ายหลังการเก็บรักษานาน
เมื่อสารพิษเหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย มันสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งได้ ดังนั้น ควรกินอาหารเหลือให้หมดโดยเร็วและหลีกเลี่ยงการเก็บรักษานานเกินไป
4. นมที่เปิดฝาแล้ว
นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ตและชีส อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมัน หากเก็บไว้ในตู้เย็นเป็นเวลานานหลังจากเปิดฝาหรือบรรจุภัณฑ์แล้ว อาหารเหล่านี้จะเสื่อมสภาพและเกิดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและจุลินทรีย์
ผลิตภัณฑ์จากนมที่เสื่อมสภาพไม่เพียงแต่ลดคุณค่าทางโภชนาการ แต่ยังสามารถทำลายตับได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมให้เร็วที่สุดหลังจากเปิดฝา
5. อาหารดอง
อาหารดอง เช่น ปลาเค็ม หมูแผ่นรมควัน และกิมจิ มีปริมาณเกลือและสารกันบูดสูงที่ถูกเพิ่มเข้าไปในกระบวนการผลิต
เมื่ออาหารเหล่านี้ถูกเก็บในตู้เย็นเป็นเวลานาน อาจเกิดการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและราขึ้น และผลิตสารที่เป็นอันตราย เช่น ไนไตรท์
ไนไตรท์สามารถเปลี่ยนเป็นไนโตรซามีนในร่างกายมนุษย์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่รู้จักกัน การบริโภคอย่างต่อเนื่องอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งทางเดินอาหาร เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร