เด็ก ม.ปลาย ถูกกดดันเรื่องเรียน ข้อความสุดท้ายก่อนจบชีวิต "ชาติหน้าอย่าเป็นแม่ผมอีกเลย"

Home » เด็ก ม.ปลาย ถูกกดดันเรื่องเรียน ข้อความสุดท้ายก่อนจบชีวิต "ชาติหน้าอย่าเป็นแม่ผมอีกเลย"
เด็ก ม.ปลาย ถูกกดดันเรื่องเรียน ข้อความสุดท้ายก่อนจบชีวิต "ชาติหน้าอย่าเป็นแม่ผมอีกเลย"

สภาพแวดล้อมในครอบครัว โดยเฉพาะวิธีการเลี้ยงดูและปฏิสัมพันธ์ของพ่อแม่กับลูก มีผลอย่างมากต่อการหล่อหลอมบุคลิกภาพและกำหนดทิศทางอนาคตของเด็ก ความรัก กำลังใจ และการสนับสนุนจากพ่อแม่ไม่เพียงช่วยให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง แต่ยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างค่านิยมและแรงบันดาลใจในชีวิต ในทางตรงกันข้าม ความเพิกเฉย การบังคับ หรือบาดแผลทางจิตใจที่เกิดขึ้นในครอบครัวสามารถส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจและพัฒนาการของเด็กได้

ที่เมืองหลานโจว ประเทศจีน เคยเกิดเรื่องเศร้าขึ้นกับเด็กชายคนหนึ่งที่ชื่อ เว่ย เทียนฮว่า เด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ควรจะได้ใช้ชีวิตวัยเยาว์และไล่ตามความฝัน แต่กลับเลือกจบชีวิตตัวเองด้วยความเจ็บปวด

วัยเด็กในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์

เว่ย เทียนฮว่า เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ได้รับความรักและการดูแลจากพ่อแม่เป็นพิเศษ

แม่ของเขา ถัง หยิ่งฉี พบกับสามีผ่านการจับคู่ของญาติ ในช่วงแรกทั้งคู่รักกันดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความกดดันในชีวิตทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นเรื่อยๆ พ่อแม่ของเขาทะเลาะกันเป็นประจำ บางครั้งถึงขั้นลงไม้ลงมือ และทั้งหมดนี้ เทียนฮว่า ต้องเห็นด้วยตาตัวเอง บรรยากาศครอบครัวที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายสร้างบาดแผลในใจของเขาอย่างที่ไม่มีอะไรมาเติมเต็มได้

สุดท้าย หลังจากการทะเลาะกันมายาวนาน พ่อแม่ของเว่ย เทียนฮว่า ก็ตัดสินใจหย่าร้าง ในปีนั้นเขากำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต พ่อแม่ให้เขาเลือกว่าจะอยู่กับใคร ญาติบางคนแนะนำให้เขาอยู่กับพ่อ บางคนก็แนะนำให้อยู่กับแม่ แต่เมื่อต้องพิจารณาถึงความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย เทียนฮว่า ตัดสินใจอยู่กับแม่

การตัดสินใจนี้ทำให้แม่ของเขาดีใจอย่างมาก บางครั้งเธอถึงกับพูดอวดเพื่อนๆ ว่า “มีแต่ฉันเท่านั้นที่เลี้ยงลูกได้”

เทียนฮว่าไม่เคยใส่ใจกับคำพูดเหล่านั้น เพราะสิ่งเดียวที่เขากังวลคือการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เขามุ่งมั่นเรียนหนักขึ้นทุกวัน จนแม้แต่ครูก็อดสงสารไม่ได้

ระหว่างนั้น เทียนฮ่า ขออนุญาตแม่ไปพบพ่อบ้าง แต่แม่ปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า “มันจะรบกวนการเรียนของลูก”

ความคาดหวังของแม่ กลายเป็นภาระกดดัน

ทุกวัน เทียนฮว่า ใช้ชีวิตอยู่กับความเครียด เขามุ่งมั่นเรียนหนังสือ ไม่ใช่เพราะรักการเรียน แต่เพียงเพื่อลืมความกดดันชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น

เมื่อผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกมา เทียนฮว่า รู้สึกโล่งใจ ไม่ใช่เพราะเขาสอบติด แต่เพราะในที่สุดเขาก็ได้รับคำตอบสำหรับเดือนวันที่เต็มไปด้วยความเครียด

สำหรับเขา “สอบตก” เป็นสิ่งที่รับได้ แต่สำหรับแม่ของเขา ถัง หยิ่งฉี มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เธอไม่สามารถให้ลูกชายเป็นรองใคร หรือให้ชื่อเสียงของครอบครัวเสียหายได้

แทนที่จะเปิดโอกาสให้ลูกเลือกเส้นทางของตัวเอง เธอกลับตัดสินใจให้เขาเรียนซ้ำอีกปีทันที โดยไม่ถามความเห็นจากเขาเลย

จากโอกาส กลายเป็นฝันร้าย

การเรียนซ้ำไม่ได้เป็นเพียงโอกาสสำหรับเทียนฮว่า แต่มันกลายเป็นฝันร้ายที่เต็มไปด้วยความอึดอัด แม่ของเขาคอยควบคุมทุกอย่าง เธอเฝ้าตรวจสอบเวลาเรียน ถามไถ่ครูเป็นประจำ และบางวันถึงกับไปยืนเฝ้าหน้าห้องเรียนเพื่อให้แน่ใจว่าลูกชายไม่ได้ละเลยการเรียน

“แม่รักลูกมากเกินไป จนกลายเป็นพันธนาการ”

เทียนฮว่า อยากจะระบายความอัดอั้นในใจ แต่ไม่รู้จะพูดกับใครดี แม้แต่ครูที่เคยบอกให้เขามาถามเมื่อมีปัญหายังช่วยอะไรเขาไม่ได้ เพราะสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ ไม่ใช่บทเรียน แต่เป็นวิธีที่จะหลุดพ้นจากความเครียดนี้ต่างหาก

จุดแตกหักของโศกนาฏกรรม

วันหนึ่ง เทียนฮว่า แสดงความต้องการอยากไปพบพ่ออีกครั้ง เพราะคิดถึงพ่อมาก หลังจากพยายามขอร้องหลายครั้ง แม่ของเขายอมให้ไปในช่วงตรุษจีน

เมื่อพบกัน เทียนฮว่า เล่าทุกอย่างให้พ่อฟัง พ่อของเขารับรู้ถึงความอึดอัดของลูก แต่เพราะการสอบเข้ามหาวิทยาลัยใกล้เข้ามาแล้ว เขาจึงไม่อยากรบกวนจิตใจลูกมากนัก และสัญญาว่าจะคุยเรื่องนี้กับอดีตภรรยาหลังจากสอบเสร็จ

ก่อนจากกัน พ่อของเขามอบซองอั่งเปามูลค่า 1,400 หยวน (ประมาณ 5,000 บาท) ให้เป็นของขวัญปีใหม่

แต่ใครจะรู้ว่า เงินจำนวนนี้กลับกลายเป็นชนวนเหตุของโศกนาฏกรรม

เมื่อแม่ของเทียนฮว่า พบซองเงินในกระเป๋าเสื้อของลูก เธอระเบิดอารมณ์ทันที เธอพาลูกไปต่อว่าถึงโรงเรียน พร้อมตะคอกว่า “แม่กับลูกเป็นคนที่ใกล้ชิดกันที่สุดในโลก แต่ทำไมลูกถึงทรยศแม่?”

คำพูดนี้เหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้าย เทียนฮว่า เก็บข้าวของออกจากบ้าน เดินไปที่สะพานข้ามแม่น้ำเหลือง เมื่อมองลงไปยังสายน้ำที่กว้างใหญ่ เขาคิดถึงการปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ

ก่อนจะตัดสินใจ เขาส่งข้อความสุดท้ายถึงแม่ว่า: “ลูกอยากเรียนให้ดี… ลูกรักแม่ แต่ชาติหน้าแม่อย่าเกิดมาเป็นแม่ของลูกอีกเลย ลูกเหนื่อยเหลือเกิน…”

แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมา ไม่ใช่คำปลอบโยนหรือความเข้าใจ แต่ยังคงเป็นคำพูดเดิมที่กดดันเขามาตลอด

“ลูกจะเป็นเด็กดีของแม่เสมอ… แม่จะพยายามช่วยลูกทุกอย่าง… ครูบอกว่าถ้าลูกตั้งใจ…”

แล้ว เทียนฮว่า ก็ปล่อยตัวลงสู่กระแสน้ำที่เย็นยะเยือก ชีวิตของเขาจบลงตรงนั้น อย่างเงียบงันและเจ็บปวด

โศกนาฏกรรมของเว่ย เทียนฮว่า เป็นผลจากความรักที่ถูกตีความผิดๆ ถัง หยิ่งฉี เชื่อว่าการควบคุมและคาดหวังสูงสุดคือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับลูก แต่เธอไม่รู้เลยว่าสิ่งนั้นเองที่ทำให้ลูกของเธอหมดหนทาง

ความรักที่แท้จริงไม่ใช่การควบคุม แต่คือการเข้าใจและสนับสนุน

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ