หมอเตือน "เมือกสีชมพู" ในห้องน้ำ ที่หลายคนคิดว่า "แค่เชื้อรา" ทำหนุ่มอายุน้อยเข้า รพ.แล้ว!

Home » หมอเตือน "เมือกสีชมพู" ในห้องน้ำ ที่หลายคนคิดว่า "แค่เชื้อรา" ทำหนุ่มอายุน้อยเข้า รพ.แล้ว!
หมอเตือน "เมือกสีชมพู" ในห้องน้ำ ที่หลายคนคิดว่า "แค่เชื้อรา" ทำหนุ่มอายุน้อยเข้า รพ.แล้ว!

หมอเตือน เมือกสีชมพูในห้องน้ำ ไม่ใช่แค่เชื้อรา รู้หรือไม่ว่าเป็นแบคทีเรียที่อันตราย?

ดร.การัน ราจาน ได้ออกมาเตือนว่าอย่ามองข้ามสัญญาณอันตรายในห้องน้ำที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะ “เมือกสีชมพู” ที่เกิดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งมีอันตรายมากกว่าที่หลายคนคิดไว้มาก

โดยคุณหมอได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิดีโอที่ชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากไม่ได้ทำความสะอาดเมือกสีชมพูในห้องอาบน้ำของหอพักมหาวิทยาลัย โดยเขาได้เขียนข้อความในคลิปว่า “เมื่อคุณไม่ทำความสะอาดราสีชมพูออกจากห้องอาบน้ำของหอพักมหาวิทยาลัย”

เมือกสีชมพูในห้องน้ำนี้ไม่ใช่เชื้อราธรรมดาๆ แต่เป็นการสะสมของแบคทีเรีย Serratia Marcescens ซึ่งมักพบในที่ชื้นๆ เช่น ห้องน้ำที่มีความชื้นสูง แบคทีเรียนี้จะเจริญเติบโตจากไขมันในสบู่หรือแชมพู ทำให้ห้องน้ำที่มีความชื้นและอบอ้าวกลายเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับมัน

แม้ในกรณีทั่วไป สารสีชมพูนี้ก็ไม่อันตรายมากนัก ถ้าไม่สัมผัสกับตาหรือแผลเปิด แต่คุณหมอก็ได้เตือนว่า “ยังควรหลีกเลี่ยง” โดยเฉาะผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือผู้ที่สัมผัสกับสารนี้ อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อในลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ หรือโรคทางเดินหายใจได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ยังเตือนอีกว่า หากบ้านของคุณมีความชื้นมากพอที่จะทำให้สารสีชมพูนี้เกิดขึ้นได้ ก็อาจหมายถึงการเติบโตของเชื้อราจริงๆ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาการหายใจหรือภูมิแพ้ได้ และหากเป็นเชื้อราสีดำ สปอร์ของมันอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น โรคเกี่ยวกับการหายใจ

ทั้งนี้ คุณหมอยังได้แนะนำวิธีง่ายๆ ในการป้องกันการเกิดแบคทีเรียนี้ในห้องน้ำ ได้แก่ ทำให้ห้องน้ำแห้ง และมีการระบายอากาศที่ดี , เปิดพัดลมหรือหน้าต่างหลังอาบน้ำเพื่อลดความชื้น, ทำความสะอาดห้องน้ำ และฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอ เพียงแค่นี้ก็ช่วยป้องกันการเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราในห้องน้ำได้แล้ว!

  • ประตูห้องน้ำ ควรปิดหรือเปิดเมื่อไม่ใช้งาน ชีวิตประจำวันที่หลายคนยังสับสน
  • หมอย้ำเตือน “อาบน้ำ-ล้างหน้า-สระผม” ต้องเรียงลำดับยังไง รู้ไว้ไม่เสี่ยงโรคทางสมอง!

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ