เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ.2568 เฟซบุ๊กคนตื่นธรรม เผยแพร่ภาพและข้อความระบุ อ.เบียร์ ฅนตื่นธรรม ได้รับการประสานจากลูกศิษย์ให้เข้ากราบขอขมา และขอโอวาทจากพระเทพวัชรสารบัณฑิต (ประสาร จนฺทสาโร) หรือ พระเดชพระคุณเจ้าคุณประสาร ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ในการนี้ท่านเจ้าคุณมีเมตตาบอกสอน และตำหนิติติงตามธรรม สิ่งใดที่ผิดพลาดไปแล้ว อ.เบียร์น้อมรับ ขอขมา เพื่อทำการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องตามธรรม ตามที่ท่านเจ้าคุณได้เมตตาบอกสอน

อีกทั้งท่านเจ้าคุณยังเล็งเห็นประโยชน์ในการเผยแผ่พระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จาก อ.เบียร์ ที่สามารถทำให้คนหมู่มาก ทุกเพศ ทุกวัย ได้เข้ามาสนใจเรียนรู้พระธรรมกันมากขึ้น อ.เบียร์ พร้อมเป็นฟันเฟืองหนึ่งในการเผยแผ่พระธรรม โดยมีพ่อแม่ครูอาจารย์แนะนำบอกสอนสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองสืบไป

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ เจ้าคุณประสาร  เคยกล่าวตำหนิ อ.เบียร์ คนตื่นธรรม หลังมีการตอบคำถามกรณีพระเกจิอาจารย์ที่มรณภาพไปแล้วร่างกายไม่เน่าเปื่อย โดยกล่าวทำนองว่าไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร แม้แต่หมาก็ไม่เน่าเปื่อยนั้น  เจ้าคุณประสาร ให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า  ได้มีการพูดคุยกับพระอาจารย์หลายรูปที่เกี่ยวข้อง รู้สึกตรงกันว่า อ.เบียร์ยังขาดคารวตา อย่างยิ่ง

คารวตาหมายถึง ความเคารพ การถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะพึงใส่ใจและปฎิบัติด้วยความเอื้อเฟื้อหรือโดยความหนักแน่นจริงจัง การมองเห็นคุณค่าและความสำคัญและปฎิบัติต่อบุคคลนั้นหรือสิ่งนั้นอย่างถูกต้องด้วยความจริงใจ  ในคารวตา6 นั้นพระพุทธองค์สอนให้เคารพใน พระศาสดา พระธรรม พระสงฆ์ การศึกษา ความไม่ประมาท และเคารพในปฎิสันถาร อยากให้ศึกษาเรียนรู้ และทำความเข้าใจให้ดี ปฎิบัติตามให้ได้ การพูดเอามัน สนุก แสวงหาคอนเทนต์โดยขาดคารวตานั้น อาจจะทำให้เป็นคนก้าวร้าว เกรี้ยวกราด แข็งกระด้าง ภายหลังเกิดคำวิจารณ์ ในที่สุด อ.เบียร์ จึงเดินทางมาพบเจ้าคุณประสาร  และขอขอขมาต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น