ยายวัย 66 ปี ติดโควิด-19 เชื้อลงปอดเสียชีวิตกลางดึก ขณะอีก 5 ชีวิตอยู่ร่วมบ้านเดียวกันก็ติดเชื้อ ยังรอความช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในซอยภูมิเวท 15 ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี หลังรับแจ้งมีครอบครัวในซอยนี้ติดโควิด-19 กันทั้งบ้าน แต่ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวไปรักษา โดยพบว่าครอบครัวนี้ อยู่กัน 6 คน และเสียชีวิตไปแล้ว 1 คน เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ขณะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลชลประทาน
แพทย์เอ็กซเรย์พบว่าปอดถูกเชื้อกินจนไม่เหลือ ทางแพทย์จึงแนะนำให้ญาติทำใจ เพราะหมดทางรักษา จนกระทั่งให้หลังเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้ป่วยรายนี้ก็เสียชีวิตทันทีที่โรงพยาบาลดังกล่าว ขณะที่ที่บ้านของผู้เสียชีวิต พบว่ายังมีญาติอีก 5 คน ติดโควิด-19 หมดทุกคน ในจำนวนนี้มีเด็กหญิงวัย 3 ขวบ รวมอยู่ด้วย
เมื่อเดินทางไปตรวจสอบยังบ้านหลังดังกล่าว พบเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น อยู่ภายในชุมชนค่อนข้างแออัด สอบถาม นายอนุภาพ อายุ 38 ปี ที่อาศัยอยู่ในบ้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วง 21.00 น. ของคืนที่ผ่านมา นางสาวสำฤทธิ์ อายุ 66 ปี ป้าของตนเอง มีอาการหนักหายใจไม่ออกหอบเหนื่อย
ตนได้แจ้งรถมูลนิธิ นำตัวส่ง รพ.ชลประทาน เนื่องจากคนในบ้านทั้ง 6 คน ผลตรวจติดเชื้อโควิดหมดทั้งบ้าน และนอนรอคอยเจ้าหน้าที่มารับตัวไปรักษาในโรงพยาบาลนานหลายวันแล้ว แต่ยังไม่มีเตียงและโรงพยาบาลตอบรับมาเลย
นายอนุภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อคุณป้าไปถึงโรงพยาบาลในสภาพอาการที่หนัก และถูกนำเข้าห้องเอ็กซเรย์ปอด ปรากฏว่าเชื้อโควิด-19 กินจนหมดปอด ทางคุณหมอได้แจ้งกลับ ทางญาติว่าผู้ป่วยมีอาการหนักไม่มีปอด ให้ทำการรักษาแล้ว ขอให้ทำใจเตรียมใจไว้ได้เลย จนกระทั่งให้หลังไม่กี่ชั่วโมงคุณป้าก็เสียชีวิต
ตอนนี้ตนเองซึ่งมีลูกชายลูกสาว 4 คน อายุ 18 ปี, 17 ปี, 14 ปี และเด็กหญิงน้ำ คนเล็กสุด อายุ 3 ขวบ รวมทั้งตนเองเป็น 5 คน อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกับคุณป้า ทุกคนล้วนติดเชื้อหมดทั้งบ้าน
ตนเองรู้สึกเป็นห่วง ลูกๆ ทั้ง 4 คน เป็นอย่างมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับลูกสาวคนเล็ก อายุ 3 ขวบ ไปทำการรักษาก่อน เพราะเขามีอาการหนักกว่าเพื่อน เกรงว่าถ้ารักษาไม่ทัน หากปล่อยทิ้งไว้นาน จนมีอาการหนักอาจจะเสียชีวิตเหมือนป้า
นอกจากนี้ น้องชายตนเองซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์เดินไม่ได้ และเป็นคนอ้วนมีบ้านอยู่ฝั่งตรงข้าม ก็ได้รับเชื้อโควิด-19 ยังนอนรอคอยความช่วยเหลือ หวังว่าจะมีหน่วยงานของรัฐเข้ามานำตัวครอบครัวตนไปรักษา