รู้ไหมว่า… ตามสถิติในปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคไตประมาณ 850 ล้านคน โรคไตเรื้อรัง กลายเป็นหนึ่งในโรคที่อันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ อย่างไรก็ตาม อัตราการรับรู้เกี่ยวกับโรคนี้ยังค่อนข้างต่ำ หลายคนไม่ไปพบแพทย์จนกว่าจะเกิดอาการไตวายหรือติดเชื้อในกระแสเลือด

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าไตของเรามีปัญหาหรือไม่? ในการแพทย์ทางคลินิก พบว่าผู้ที่มีสุขภาพไตที่ไม่ดี มักมีลักษณะบางประการแสดงบนมือ นั่นคือ “รอยย่น” หรือ “รอยพับ” บนฝ่ามือ

คนจีนมีคำกล่าวว่า “การบำรุงด้วยอาหารดีกว่าการบำรุงด้วยยา” และมี 3 อาหารบำรุงไต ที่ควรทานเพื่อปกป้องไต โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว

หน่อไม้ฝรั่ง

ในฤดูหนาวอากาศหนาวเย็นทำให้มีลมหนาวเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งสามารถทำให้ไตเสียหายและเป็นสาเหตุของโรคไตเรื้อรัง

หน่อไม้ฝรั่งสามารถช่วยขับเลือดคั่ง สร้างเลือดใหม่ มีฤทธิ์ในการระบายความร้อน, หยุดเลือดไหล, กระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด และลดอาการบวม โดยพบว่าแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการแพทย์จีนแผนโบราณ มักใช้หน่อไม้ฝรั่งในการรักษาโรคเกี่ยวกับไต

ในฤดูหนาวที่อากาศเย็น การทานซุปซี่โครงหมูต้มกับหน่อไม้ฝรั่ง จะช่วยขับความชื้นและความร้อนออกจากร่างกาย ทานเป็นประจำจะช่วยปกป้องสุขภาพไตได้ดี หากเพิ่มขิงสดลงไปก็จะช่วยลดความเย็นของหน่อไม้ฝรั่ง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ

เมล็ดวอลนัท

หลายคนรู้ดีอยู่แล้วว่าวอลนัทเป็น “ผลไม้บำรุงสมอง” แต่มีน้อยคนที่รู้ว่ามันยังดีต่อการบำรุงไตอีกด้วย

วอลนัทมีผลดีในการบำรุงไต เพราะสามารถเข้าไปในเส้นลมปราณของไต ช่วยเสริมสร้างสุขภาพไต ช่วยบำรุงไต และเสริมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากไตอ่อนแอ เช่น ฟันอ่อนแอ, ผมหงอกก่อนวัย, ปวดหลังและขา, ปวดกระดูก, ปัสสาวะบ่อย

สามารถต้มน้ำซุปเมล็ดวอลนัทกับใบชะเอม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงไต หรือจะนำเมล็ดวอลนัทไปต้มกับสมุนไพรอย่างดอกคูน, ใบแปะก๊วย เพื่อทำน้ำชา ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการไตเสื่อม

ปลาไหล

ตามการแพทย์แผนจีนโบราณ ปลาไหลมีคุณสมบัติในการปรับสมดุลและบำรุงเลือด เสริมสร้างสุขภาพม้ามและกระเพาะอาหาร ขับปัสสาวะและลดอาการบวม เมื่อปลานำไปปรุงร่วมกับเห็ดหอมจะช่วยบำรุงม้าม, ปอด, และไต

นอกจากนี้ ปลาไหลยังสามารถนำมาประกอบกับสมุนไพรอื่นๆ เช่น ฝูหลิง, ขิงแห้ง เพื่อให้ได้ผลการบำรุงไตที่ดียิ่งขึ้น นี่คือหนึ่งในวิธีที่ง่ายในการบำรุงไต และป้องกันโรคไตเรื้อรัง โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่อากาศเย็น