ย้อน "คำเตือน" เศรษฐียุคราชวงศ์ชิง ก่อนตายสั่งลูกหลาน "อย่าเข้าใกล้เสือขาว" หมายถึงอะไร?

Home » ย้อน "คำเตือน" เศรษฐียุคราชวงศ์ชิง ก่อนตายสั่งลูกหลาน "อย่าเข้าใกล้เสือขาว" หมายถึงอะไร?
ย้อน "คำเตือน" เศรษฐียุคราชวงศ์ชิง ก่อนตายสั่งลูกหลาน "อย่าเข้าใกล้เสือขาว" หมายถึงอะไร?

“เสี่ยวหู ตู้ตั๋ว” เศรษฐีแห่งยุคราชวงศ์ชิง ผู้ร่ำรวยจนมีทรัพย์สินมหาศาล แต่บั้นปลายชีวิตน่าเวทนา ก่อนตายยังกล่าวเตือนลูกหลานให้หลีกเลี่ยง “เสือขาว”

เสี่ยวหู ตู้ตั๋ว (胡雪巖) บัณฑิตแห่งราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุดในช่วงปลายราชวงศ์ชิง มีสาวงามล้อมรอบและทรัพย์สินมากมายจนสามารถกล่าวได้ว่า ทรัพย์สมบัติของเขาสามารถเทียบเคียงได้กับอาณาจักรหนึ่ง แต่ในช่วงบั้นปลายชีวิตของชายผู้นี้กลับเต็มไปด้วยความทุกข์และเศร้าโศก ทั้งนี้ ก่อนที่จะเสียชีวิตเขาได้กล่าวคำเตือนกับลูกหลานเอาไว้ว่า “อย่าเข้าใกล้เสือขาว”

“เสือขาว” ที่เขากล่าวถึงคืออะไร?

คำตอบนี้ต้องย้อนกลับไปที่ประวัติของเขาเอง…. เสี่ยวหู ตู้ตั๋ว เกิดในครอบครัวที่ยากจน ตั้งแต่เด็กเขาได้ประสบกับความไม่ยุติธรรมและความเย็นชาของมนุษย์ ทำให้เข้าใจตั้งแต่แรกว่าการจะทำมาหากินจะต้องมี “คนมีอำนาจ” คอยสนับสนุน และเขาก็ได้สามารถกลายเป็นพ่อค้าผู้ร่ำรวยที่มีอิทธิพลมาก เพราะมีการสนับสนุนจากจอมพลซ้าย จัว๋ซ่งถาง (左宗棠) ซึ่งเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือและขจัดอุปสรรคในการทำธุรกิจของเขา ทำให้เขาสามารถประสบความสำเร็จและกลายเป็นหนึ่งในนักธุรกิจระดับตำนานในช่วงปลายราชวงศ์ชิง

แต่การขึ้นสู่ความสำเร็จของเขากลับล่มสลายลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันคาดคิด หลังจากที่จัว๋ซ่งถางเสียชีวิตลง หลี่หงจาง (李鴻章) ได้เริ่มตรวจสอบบัญชีของเขา ส่งผลให้ไม่เพียงแต่ทรัพย์สินที่หามาได้ทั้งหมดถูกยึดคืนเท่านั้น แต่เขายังถูกลงโทษทางกฎหมาย เมื่อเข้าสู่ช่วงบั้นปลายชีวิต เสี่ยวหู ตู้ตั๋ว ก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรเหลือเลย ความรุ่งเรืองและความมั่งคั่งที่เคยมีมาหายไปหมดสิ้น อีกทั้งยังต้องเผชิญกับความยากจนและโรคภัยไข้เจ็บ

หลังจากประสบกับการขึ้นๆ ลงๆ ของชีวิต เสี่ยวหู ตู้ตั๋ว ได้ตระหนักว่าในช่วงวัยหนุ่มเขามักจะพยายามหาความสัมพันธ์กับชนชั้นสูง แต่กลับพบว่าแนวคิดนี้ทำให้เขาต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน ดังนั้นก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาจึงได้ฝากคำเตือนกับลูกหลานของเขาว่า “อย่าเข้าใกล้เสือขาว” ซึ่งคำว่า “เสือขาว” ที่เขากล่าวถึงก็คือผู้มีอำนาจ โดยการที่ธุรกิจและการเมืองผสมผสานกัน หรือการให้การเมืองมีอิทธิพลมากเกินไปในกิจการของตน และไม่ต้องการให้ลูกหลานของเขาตกอยู่ในวงจรนี้ โดยไม่ให้การเมืองเข้ามามีอิทธิพลต่ออาชีพของพวกเขา ลูกหลานของเขาก็ปฏิบัติตามคำสั่งนี้จนถึงปัจจุบัน โดยไม่เคยมีใครเข้าร่วมในวงการการเมืองอีกเลย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ