ปัจจุบันมีการนำปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาใช้ในอุตสหกรรมต่าง ๆ เพื่ออำนวนความสะดวกในการทำงาน อย่างไรก็ตามความชาญฉลาดของ AI ก็ส่งผลเสียให้กับมนุษย์ด้วยเช่นกัน
โดยในบทความของนิตยาสาร Forbes ได้ระบุว่า AI สามารถเข้ามาแทนที่ได้ในหลายอาชีพ ซึ่งประกอบด้วย 6 อาชีพ ดังนี้
1. งานธุรการ
งานด้านธุรการ เน้นไปที่การป้อนข้อมูล จัดเรียงข้อมูล และตรวจเอกสารจำนวนมาก จึงมีกฎเกณฑ์และอาศัยความแม่นยำอย่างมาก ซึ่ง AI ก็มีความเก่งในเรื่องการประมวลผลและจัดระเบียบข้อมูลจำนวนมากในระยะเวลาที่รวดเร็วและแม่นยำ ทำให้ในอนาคต AI อาจเข้ามาแทนที่ในงานเกี่ยวกับธุรการ
2. งานบริการลูกค้า (Customer Service)
ปัจจุบัน AI มีความสามารถในการให้บริการลูกค้า ไม่ว่าจะช่วยให้ข้อมูล แนะนำ หรือตอบปัญหาลูกค้า อีกทั้งยังพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และตอบสนองได้ทันที ทำให้ AI สามารถเข้ามาแทนที่ในตำแหน่งนี้ได้
3. งานด้านการผลิต
ในหลายภาคอุตสาหกรรมการผลิต เริ่มมีการใช้ AI เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มการผลิต เนื่องจาก AI มีความสามารถในการทำงานที่มีรูปแบบที่ชัดเจน เช่น การบรรจุหึบห่อ การประกอบผลิตภัณฑ์ การเชื่อม อีกทั้งยังมีระบบที่แม่นยำกว่ามนุษย์และทำงานได้ไม่หยุดพัก ทำให้ในอนาคต AI อาจมาแทนที่คนในโรงงานอุตสาหกรรมได้
4. พนักงานแคชเชียร์
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าร้านค้าในห้างส่วนใหญ่ เริ่มหันมาใช้เครื่องสแกนอัตโนมัติที่ลูกค้าสามารถบริการตนเอง ระบบเหล่านี้สามารถจัดการธุรกรรมได้อย่างอิสระ จัดการสินค้าลงคลัง หรือแม้แต่เสนอประสบการณ์การช็อปปิ้งให้ลูกค้าแต่ละคนได้ ทำให้อาจนำไปสู่การลดบทบาทของพนักงานแคชเชียร์ในอนาคต
5. กราฟิกดีไซน์
ในบทความของนิตยสาร Forbes ยังระบุว่างานด้านกราฟิกดีไซน์ก็ไม่รอดจาก AI เช่นกัน เนื่องจาก AI สามารถสร้างงานออกแบบกราฟิกง่ายๆ ทั้งโลโก้ โพสต์โซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่เลย์เอาต์เว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าการออกแบบที่สร้างโดย AI อาจขาดความคิดสร้างสรรค์และความเป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์ แต่ก็เพียงพอสำหรับความต้องการการออกแบบพื้นฐาน ทำให้งานเกี่ยวกับออกแบบกราฟิกเริ่มมีความเสี่ยง
6. นักแปล
งานเกี่ยวกับการแปล เป็นอีกหนึ่งสายงานที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาของ AI เพราะแม้ว่า AI จะมีข้อจำกัดด้านความละเอียดอ่อนทางภาษา บริบททางวัฒนธรรมยังต้องอาศัยความสามารถของมนุษย์ แต่ AI มีสามารถในการแปลขั้นพื้นฐานได้หลายภาษา และรวดเร็วกว่ามนุษย์ รวมถึงในอนาคตอาจมีการพัฒนา จึงทำให้สายงานนี้มีความเสี่ยงมาก
นอกจากนี้ในผลสำรวจของ CISAC องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านการปกป้องลิขสิทธิ์ที่เกิดจากพันธมิตรองค์กรด้านลิขสิทธิ์กว่า 200 องค์กรทั่วโลก ได้เผยว่าในธุรกิจอุตสาหกรรมความบันเทิง อาชีพนักแปลซับไตเติ้ล ได้รับผลกระทบจาก AI มากที่สุด และคาดว่าจะมีรายได้ลดลงถึง 50% ภายในปี 2028