กระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันศุกร์ (26 มี.ค.) คว่ำบาตรองค์กร 4 องค์กร และชาวสหราชอาณาจักร 9 คน โดยอ้างว่าองค์กรและบุคคลเหล่านี้โกหกและบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกสุดของประเทศ
บุคคลที่ตกเป็นเป้าหมายของการคว่ำบาตรครั้งนี้ของจีนจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในดินแดนของจีน ทั้งยังห้ามชาวจีนและสถาบันต่างๆ ทำธุรกิจกับคนเหล่านี้ด้วย
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากสหราชอาณาจักรคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐชาวจีนและหน่วยงานของรัฐบาลจีนจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ดังกล่าว
นอกจากสหราชอาณาจักรแล้ว หลายประเทศก็คว่ำบาตรบุคคลในรัฐบาลจีนและหน่วยงานรัฐของจีนเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ สหภาพยุโรป และแคนาดา จากเรื่องเดียวกัน
นักเคลื่อนไหวและผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิขององค์การสหประชาชาติเผยว่า ที่ผ่านมามีผู้นับถือศาสนาอิสลามอย่างน้อย 1 ล้านคนถูกส่งเข้าค่ายกักกันในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และเชื่อว่าจีนทรมานคนเหล่านี้ บังคับใช้แรงงาน และบางคนยังโดนนำไปทำหมันอีกด้วย
ด้านรัฐบาลจีนปฏิเสธคำกล่าวอ้างเหล่านี้ ว่าไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนใดๆ และค่ายเหล่านั้นเป็นค่ายฝึกอาชีพ และมีขึ้นเพื่อต่อต้านแนวคิดสุดโต่งเท่านั้น
ประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในดินแดนดังกล่าว ทำให้แบรนด์ระดับโลกหลายแบรนด์แสดงจุดยืนว่าไม่ได้ใช้วัสดุที่เป็นผลผลิตของการบังคับใช้แรงงานในเขตปกครองตนเองซินเจียง อย่างเช่น ไนกี้ จนถูกชาวจีนวิจารณ์อย่างหนักในโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้คนดังบางคนประกาศยุติสัญญากับแบรนด์อุปกรณ์กีฬาแบรนด์นี้ หนึ่งในนั้นคือ หวัง อี-ป๋อ
- หวัง อีป๋อ ฉีกสัญญาไนกี้ หลังแบรนด์ดังแถลงปัดใช้วัสดุซินเจียง ปมละเมิดสิทธิ์ชาวอุยกูร์