ผัวติดคุกคดีฆ่าเมีย หลังพบศพในบ่อน้ำ ผ่านไป 11 ปี “เมียที่ตาย” กลับมาเปิดเผยความจริงสุดช็อก
สื่อในประเทศจีน มีการย้อนถึงคดีสุดช็อกในอดีต หลังชายคนหนึ่งต้องติดคุกในข้อหาฆ่าภรรยาตัวเอง แต่ผ่านไป 11 ปี ภรรยาของเขาที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้ว กลับมาเปิดเผยความจริง จนกลายเป็นข่าวโด่งดังและฉาวโฉ่ของกระบวนการยุติธรรม
จุดเริ่มต้นของเรื่องราว
ในเย็นวันที่ 20 มกราคม 1994 จางไจ่หยู (Zhang Zaiyu) และสามีของเธอ เช่อเซียงหลิน (She Xianglin) ทะเลาะกันรุนแรงเรื่องปัญหาครอบครัวเล็กน้อย จางไจ่หยูจึงหนีออกจากบ้านด้วยความโกรธ
เช่อเซียงหลินคิดว่าเธออาจกลับมาเมื่อสงบสติอารมณ์ได้แล้ว จึงไม่ได้ออกไปตามหาเธอ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าการจากไปครั้งนี้จะเป็นการจากไปตลอดกาล
สามวันหลังจากที่จางไจ่หยูออกจากบ้าน เธอยังไม่กลับมา เช่อเซียงหลินจึงรีบไปบ้านแม่ของเธอเพื่อตามหา แต่ก็ไม่พบวี่แวว เหมือนเธอหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เช่อเซียงหลินรู้สึกผิดปกติจึงรีบแจ้งตำรวจ
หลังรับแจ้ง ตำรวจได้ระดมกำลังค้นหาในทุกที่ที่จางไจ่หยูอาจไป แต่ก็ยังไม่พบเบาะแส
จนกระทั่งเช้าวันที่ 11 เมษายน มีชาวบ้านคนหนึ่งพบศพลอยอยู่ในบ่อขณะเดินผ่าน จึงรีบแจ้งตำรวจ
ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุและนำศพขึ้นมา หลังชันสูตรพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 30 ปี สูง 1.55 เมตร แต่เนื่องจากศพแช่น้ำนานเกินไป ใบหน้าจึงจำไม่ได้
ตำรวจสังเกตว่าผู้ตายมีรูปร่างคล้ายจางไจ่หยูที่เพิ่งหายตัวไปไม่นาน จึงให้ครอบครัวของเธอมาชี้ตัว แม่ของจางไจ่หยูถึงกับร้องไห้โฮและยืนยันว่าศพคือจางไจ่หยู
ตำรวจขอให้แม่ของจางไจ่หยูตรวจ DNA เพื่อยืนยันตัวตน แต่ในปี 1994 การตรวจ DNA มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 20,000 หยวน ซึ่งครอบครัวไม่สามารถจ่ายได้
การสืบสวนและคำตัดสินที่ผิดพลาด
ตำรวจระบุว่ามีร่องรอยการกระแทกด้วยของแข็งที่ศีรษะของศพ ซึ่งอาจเป็นการฆาตกรรมแล้วทิ้งศพในน้ำหรือจมน้ำหลังถูกทำร้าย แม่ของจางไจ่หยูจึงแจ้งว่าลูกเขยเคยใช้ความรุนแรงในครอบครัว และไม่พอใจที่จางไจ่หยูมีอาการป่วยทางจิต
ตำรวจจับตัวเช่อเซียงหลินมาสอบปากคำ และหลังจากการกดดันนานถึง 6 เดือน เขาก็ยอมรับว่าเป็นคนฆ่าภรรยา ด้วยคำสารภาพนี้ เช่อเซียงหลินถูกตัดสินจำคุก 15 ปี
การกลับมาของจางไจ่หยู
ในปี 2005 จางไจ่หยูปรากฏตัวขึ้นที่บ้านของเช่อเซียงหลินพร้อมสามีใหม่และลูกชาย เธอเล่าว่าหลังหนีออกจากบ้าน เธอจำที่อยู่และชื่อของตัวเองไม่ได้ จึงเร่ร่อนไปจนถึงมณฑลซานตงและแต่งงานมีครอบครัวใหม่
เมื่อทราบว่าจางไจ่หยูยังมีชีวิตอยู่ เช่อเซียงหลินจึงได้รับการปล่อยตัว ศาลสูงหูเป่ยพิจารณาคดีใหม่และยกฟ้องเขา
หลังถูกจองจำโดยไม่เป็นธรรมถึง 11 ปี เช่อเซียงหลินได้รับค่าชดเชยกว่า 700,000 หยวน แต่ชีวิตครอบครัวของเขาแตกสลายไปแล้ว แม่ของเขาเสียชีวิตด้วยความโศกเศร้า ลูกสาวต้องหนีไปทำงานต่างเมือง ครอบครัวต้องเผชิญความทุกข์ทรมานอย่างหนัก
ศาสตราจารย์ เฉินรุ่ยหัว ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าวว่า ศาลมักจะลงโทษผู้ต้องสงสัยด้วยบทลงโทษที่เบาลงหากไม่มีหลักฐานเพียงพอ “พวกเขาไม่ยกฟ้องหรือประกาศความบริสุทธิ์ของผู้ต้องสงสัย แต่ก็ไม่ลงโทษประหารชีวิตเช่นกัน” เขากล่าว พร้อมชี้ว่าการลงโทษจำคุก 15 ปีเป็นทางเลือก “สายกลาง”
หลี่ กุยฟาง ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาญา กล่าวว่า คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่ผู้ต้องสงสัยไม่มีสิทธิ์เข้าถึงทนายความในคดีอาญา
“เราจะเห็นได้จากคดีแบบนี้ว่า ผู้ต้องสงสัยมักไม่รู้เรื่องกฎหมายมากนัก หากพวกเขาได้รับสิทธิ์เข้าถึงทนายความตั้งแต่เริ่มต้น พวกเขาย่อมมีโอกาสได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมมากขึ้น” หลี่ กุยฟาง กล่าว พร้อมระบุว่าพนักงานอัยการมองข้าม “ข้อสงสัยหลายประเด็น” ในคดีนี้