รู้ไว้ดีกว่า! ซักผ้าด้วย "พริกไทยดำ" ต้องใส่แค่ไหน ประโยชน์มากกว่าผ้านุ่ม-ลดสารเคมี

Home » รู้ไว้ดีกว่า! ซักผ้าด้วย "พริกไทยดำ" ต้องใส่แค่ไหน ประโยชน์มากกว่าผ้านุ่ม-ลดสารเคมี
รู้ไว้ดีกว่า! ซักผ้าด้วย "พริกไทยดำ" ต้องใส่แค่ไหน ประโยชน์มากกว่าผ้านุ่ม-ลดสารเคมี

การซักผ้าด้วย “พริกไทยดำ” เคล็ดลับง่ายๆ มีประโยชน์อย่างไร ไม่ใช่แค่ผ้านุ่ม-ลดสารเคมี ให้ผลลัพธ์มากมายอย่างที่น้อยคนคาดถึง

การรักษาเสื้อผ้าให้คงทนและสวยงาม โดยที่สีไม่ซีดจาง คือสิ่งที่ทุกคนใส่ใจและหวังให้เป็นเช่นนั้น ในบรรดาเคล็ดลับการซักรีดแบบดั้งเดิม วิธีการหนึ่งที่หลายคนใช้เหมือนกันคือ การซักเสื้อผ้าด้วย “พริกไทยดำ” จำนวนหนึ่ง อาจฟังดูแปลก แต่พริกไทยดำมีผลที่น่าประหลาดใจมากในการช่วยให้เสื้อผ้าคงความสดใสและทนทาน

การซักผ้าด้วยพริกไทยดำ 1 กำมือ มีผลอย่างไร?

สีซีดจางเป็นปรากฏการณ์ที่เม็ดสีในผ้าถูกชะล้างออกไประหว่างกระบวนการซัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ผงซักฟอกที่มีสารซักฟอกเข้มข้น หรือการซักที่อุณหภูมิสูง นอกจากนี้การเสียดสีระหว่างเส้นใยผ้ายังทำให้สีค่อยๆ สึกกร่อนเมื่อเวลาผ่านไปโดยเฉพาะเสื้อผ้าสีเข้มหรือวัสดุที่บอบบาง เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าขนสัตว์ หรือผ้าย้อมมือ การซีดจางจะยิ่งรุนแรงยิ่งขึ้น

เมื่อซักเสื้อผ้า ผงซักฟอกมักจะทิ้งชั้นของสารตกค้างไว้บนพื้นผิวผ้า สารตกค้างนี้ทำให้สีซีดจาง และเมื่อสะสมในการซักหลายครั้ง ก็จะทำให้เสื้อผ้าดูเก่าและซีดเร็วขึ้น ในขณะที่ “พริกไทยดำ” ทำหน้าที่เป็นผงซักฟอกตามธรรมชาติ ที่ช่วยขจัดสิ่งตกค้างเหล่านี้โดยไม่ทำลายเนื้อผ้า

สารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่พบในพริกไทยดำ ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการซีดจางเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการขจัดคราบสบู่และสารเคมีที่ตกค้างบนผ้าหลังการซัก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ผ้าซีดจาง นอกจากนี้ ยังช่วยปกป้องสีของเส้นใยผ้าช่วยลดการเกิดออกซิเดชันของสี ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการซีดจาง

พริกไทยดำเมื่อเติมลงในเครื่องซักผ้าจะทำหน้าที่เป็น “สารขัดถูอ่อนๆ” ช่วยขจัดคราบโดยไม่ทำลายเนื้อผ้า จึงช่วยให้เสื้อผ้าคงสีสดไว้ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยให้เสื้อผ้าสะอาดและลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์

การซักผ้าด้วยพริกไทยดำ มีวิธีการอย่างไร?

วิธีการนั้นง่ายมากๆ เพียงแค่ใส่พริกไทยดำป่น 1 ช้อนชา ลงในเครื่องซักผ้าพร้อมกับเสื้อผ้าสีเข้ม (หมายเหตุ: ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าพริกไทยจะติดเสื้อผ้า เพราะพริกไทยจะหลุดออกและถูกชะล้างโดยอัตโนมัติ)

ทั้งนี้ ควรซักเสื้อผ้าสีอ่อนกับเสื้อผ้าสีเข้มแยกกันเพื่อไม่ให้สีซีดจาง และใช้น้ำเย็นในการซักเพื่อช่วยปกป้องสีผ้า เนื่องจากน้ำเย็นช่วยให้สีเกาะติดเส้นใยผ้า ลดการซีดจาง  เลือกโปรแกรมการซักแบบอ่อนโยน เพื่อจำกัดการเสียดสีที่รุนแรงระหว่างเส้นใยผ้า หลังจากซักแล้วเพียงแค่ต้องนำเสื้อผ้าออกมาตากในที่เย็น โดยให้ห่างจากแสงแดดโดยตรง เพื่อให้สีสวยงามยิ่งขึ้น

นอกจากจะรักษาสีของเสื้อผ้าให้สดอยู่เสมอแล้ว การเติมพริกไทยดำลงในลงในเครื่องซักผ้า ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายเช่น

  1. ลดการใช้สารเคมีทำความสะอาดให้น้อยที่สุด สามารถลดการใช้ผงซักฟอกที่รุนแรงได้ ช่วยปกป้องผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายระคายเคืองง่ายจากสารเคมี
  2. ประหยัดค่าใช้จ่าย พริกไทยดำไม่ใช่ส่วนผสมที่มีราคาแพง และหาได้ง่ายตามร้านทั่วไป การใช้วิธีนี้ช่วยให้ประหยัดเงินในการซื้อผงซักฟอก และน้ำยาปรับผ้านุ่มป้องกันสีสำหรับเสื้อผ้า
  3. ช่วยให้ผ้านุ่ม การใช้พริกไทยดำช่วยขจัดคราบที่ตกค้าง โดยไม่สูญเสียความนุ่มตามธรรมชาติของผ้า  สิ่งนี้มีประโยชน์สำหรับเสื้อผ้าที่บอบบาง เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไหม และผ้าพรีเมียมอื่นๆ
  4. ช่วยลดกลิ่นและต้านเชื้อแบคทีเรีย พริกไทยดำสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียอย่างอ่อนโยน ช่วยให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมสดชื่น และปราศจากกลิ่นอันไม่พึงประสงค์

ข้อควรทราบเมื่อซักเสื้อผ้าด้วยพริกไทยดำ

อย่าใช้ในทางที่ผิด : ไม่ควรใช้พริกไทยดำบ่อยเกินไปในการซักแต่ละครั้ง เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอแล้วที่เสื้อผ้าจะอยู่ได้ยาวนาน

ซักผ้าที่บอบบางแยกต่างหาก : สำหรับผ้าคุณภาพสูง เช่น ผ้าไหม ควรซักด้วยมือหรือใช้ถุงซักผ้าเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียดสีมากเกินไป

ใช้ร่วมกับน้ำส้มสายชูกลั่นขาว : หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและคงสีไว้ สามารถใช้ร่วมกับน้ำส้มสายชูกลั่นขาวได้ น้ำส้มสายชูยังช่วยขจัดสิ่งตกค้างและทำให้ผ้านุ่มขึ้นตามธรรมชาติ

หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงเมื่อตากแห้ง : แสงแดดโดยตรงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เสื้อผ้าซีดจางเร็ว ดังนั้นควรตากผ้าในที่เย็นและอากาศถ่ายเทได้สะดวก

  • หนึ่งคน “ซักผ้า” ป่วยมะเร็งทั้งครอบครัว แพทย์เตือน 3 นิสัยผิดๆ ที่เป็นพิษต่อสุขภาพ
  •  ทำไมต่างชาติชอบ “ตากผ้ากลับหัว” รู้ประโยชน์แล้วว้าว เคล็ดลับง่ายๆ แถมไม่เสียเงิน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ