หมอมาเตือนเอง คนชอบจุ่มผักใน "ชาบู" ต้องฟัง อาจทำร้ายตับไม่รู้ตัว แถมเสี่ยงมะเร็ง

Home » หมอมาเตือนเอง คนชอบจุ่มผักใน "ชาบู" ต้องฟัง อาจทำร้ายตับไม่รู้ตัว แถมเสี่ยงมะเร็ง
หมอมาเตือนเอง คนชอบจุ่มผักใน "ชาบู" ต้องฟัง อาจทำร้ายตับไม่รู้ตัว แถมเสี่ยงมะเร็ง

สายชาบู-หม้อไฟ ต้องระวัง ชอบจุ่มผักแค่พอสุกเร็ว ๆ กินแซบแต่อันตราย ทำร้ายตับไม่รู้ตัว แถมเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อมะเร็ง

ถือเป็นอีกเมนูในดวงใจของคนไทยหลายคน สำหรับ หม้อไฟ หรือ ชาบู แม้จะอร่อยแต่หากรับประทานไม่ถูกวิธี อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ซึ่งผักก็เป็นส่วนประกอบสำคัญของ ชาบู โดยทั่วไปนิยมใช้ผักบุ้ง ขึ้นฉ่าย และวอเตอร์เครส ซึ่งเป็นผักน้ำ หากเตรียมไม่เหมาะสม อาจแฝงความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ได้

นพ.เลอ วาน เทียว แผนกติดเชื้อทั่วไป โรงพยาบาลโรคเขตร้อนกลาง ของเวียดนาม เปิดเผยว่า ในการตรวจรักษา เขาเคยพบผู้ป่วยบางรายที่ติดพยาธิใบไม้ตับและมีตับถูกทำลาย เนื่องจากชอบรับประทานผักน้ำดิบหรือผักลวกชาบูที่ไม่สุกดี

ผู้ป่วยมักทราบว่าตนเองติดพยาธิใบไม้ตับ ก็ต่อเมื่อเริ่มมีอาการผิดปกติและมาพบแพทย์

นพ.เทียว กล่าวว่า หลายคนเชื่อว่าการลวกผักในชาบูแค่พอสุกเร็วๆ จะช่วยให้ผักกรอบหวานและอร่อยกว่า แต่พฤติกรรมนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อปรสิต โดยเฉพาะเมื่อใช้ผักน้ำเป็นส่วนประกอบ

ผักน้ำ เช่น ผักขึ้นฉ่าย ผักชีลาว ผักกะเฉด และวอเตอร์เครส มีโอกาสปนเปื้อนสูงหากแหล่งน้ำไม่สะอาด

นพ.เทียว อธิบายว่า น้ำเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อนพยาธิใบไม้ตับและตัวอ่อนปรสิต ซึ่งสามารถเกาะติดอยู่บนผักน้ำเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ ผักเหล่านี้ยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อนปรสิต แบคทีเรีย และพยาธิอื่นๆ หากเติบโตในพื้นที่ที่มีของเสียจากมนุษย์หรือสัตว์

“ผู้ที่รับประทานผักที่ปนเปื้อนปรสิตโดยไม่ได้ปรุงสุกอย่างทั่วถึง มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อปรสิต” นพ.เทียว กล่าว

  • หมอมนูญ เปิดเคสผู้ป่วยชายวัย 64 มีฝีในตับ ที่แท้ต้นตอจากผักสดที่กินเป็นประจำ

ในกรณีของพยาธิใบไม้ตับ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ตัวอ่อนจะเคลื่อนไปยังกระเพาะอาหาร ผ่านลำไส้เล็กส่วนต้น แยกเปลือกออก แล้วเจาะทะลุผนังลำไส้เข้าสู่ช่องท้อง จากนั้นเคลื่อนเข้าสู่ตับ ทะลุผ่านเยื่อหุ้มตับ และแทรกซึมเข้าสู่เนื้อตับ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อตับ

นพ.เทียว กล่าวว่า “พยาธิใบไม้ตับใหญ่จะอาศัยอยู่ในเนื้อตับเป็นหลัก แต่ในระหว่างการเจาะเข้าสู่ตับ พยาธิสามารถเคลื่อนที่ไปยังอวัยวะอื่นๆ และทำให้เกิดความเสียหายที่ผนังลำไส้ ผนังกระเพาะอาหาร และผนังช่องท้องได้”

หลังจากประมาณ 2-3 เดือน เมื่อพยาธิเข้าสู่เนื้อตับ พยาธิจะเคลื่อนที่ไปยังท่อน้ำดี กลายเป็นพยาธิที่โตเต็มที่และเริ่มวางไข่ ในท่อน้ำดี พยาธิที่โตเต็มที่สามารถอาศัยอยู่และทำให้เกิดโรคได้หลายปี หากผู้ป่วยไม่พบและรักษาอย่างทันท่วงที

ในท่อน้ำดี พยาธิสามารถทำลายเยื่อบุท่อน้ำดี ทำให้ท่อน้ำดีอุดตัน เกิดการอักเสบและการทำให้ท่อน้ำดีแข็งตัว หากไม่รักษา อาจนำไปสู่ “มะเร็งท่อน้ำดี” ได้

การรับประทานผักอย่างถูกวิธีช่วยป้องกันการติดเชื้อปรสิต

เพื่อความปลอดภัยในการรับประทานผักน้ำในชาบู นพ.เทียว แนะนำว่า ประชาชนควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยต้องมั่นใจว่าผักได้รับการปรุงสุกดีเสียก่อน

เพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากพยาธิและปรสิต นพ.เทียว แนะนำให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำ ดังนี้

  • ควรรับประทานผักน้ำเฉพาะหลังจากที่ผ่านการปรุงสุกดีแล้ว
  • รักษาความสะอาดทั้งตัวและสภาพแวดล้อม หลีกเลี่ยงพื้นที่ชื้นและมลพิษ
  • ควรถ่ายพยาธิให้สุนัขและแมวเป็นประจำ
  • ควรกินยาถ่ายพยาธิปีละ 3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 4 เดือนในแต่ละครั้ง (ตามอายุหรือคำแนะนำของแพทย์)

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ