ผัวทำพินัยกรรม ยกเงินในบัญชี 9 ล้าน ให้เมีย แต่ธนาคารไม่ให้ถอน ทั้งที่เอาเอกสารหลักฐานไปครบ ยกเหตุผล 1 ข้อ เมียหัวร้อนยื่นฟ้องศาล
ชายชาวจีนคนหนึ่งได้ทำพินัยกรรม ยกเงินที่ฝากไว้ในธนาคารเป็นจำนวนมากถึง 1.9 ล้านหยวน (ประมาณ 9.1 ล้านบาท) ให้กับภรรยา ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเพราะโรคร้าย แต่แม้จะมีการทำพินัยกรรมยกสมบัติรวมถึงเงินในบัญชีทั้งหมดแก่ภรรยา แต่ทางธนาคารกลับไม่ยินยอมให้ถอนเงิน แม้เธอจะมีเอกสารที่เกี่ยวข้องทางกฎหมายทั้งหมด โดยอ้างเหตุผล 1 ข้อ
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2023 ได้เกิดเหตุการณ์พิพาทเกี่ยวกับมรดก (เงินออม) ที่ได้รับการจัดการโดยศาลประชาชนเมืองหวันซุน มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก
เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อชายคนหนึ่งจากมณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีออมทรัพย์ เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เมื่อเขาไปที่ธนาคารเพื่อเปิดบัญชีฝากประจำ โดยฝากเงินจำนวน 1.9 ล้านหยวน เป็นระยะเวลา 5 ปี หลังจากที่ นายโม่ ทราบเกี่ยวกับสภาพสุขภาพของตนเอง เขาจึงตัดสินใจทำพินัยกรรม โดยระบุให้นางหวังหว่าน ภรรยาของเขา เป็นผู้ได้รับมรดกทั้งหมดของทั้งคู่ รวมถึงเงินออม 1.9 ล้านหยวน นี้ด้วย
ภรรยาของเขาผ่านความเจ็บปวดจากการสูญเสียสามี และตกอยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ ไม่สามารถทำใจเกี่ยวกับทรัพย์สินที่สามีผู้ล่วงลับทิ้งไว้ได้ เมื่อเวลาผ่านไปเธอจึงจำได้ว่าเงินออมของสามีได้ครบกำหนดถอนแล้ว เธอจึงนำใบมรณบัตร, พินัยกรรม, ใบทะเบียนสมรส, บัตรประชาชนของตัวเอง และเอกสารบางอย่างของนายโม่ไปที่ธนาคารเพื่อขอถอนเงิน แต่ธนาคารกลับปฏิเสธคำขอของเธอ โดยระบุว่าเธอไม่มีสิทธิ์ถอนเงิน เพราะยังไม่ได้มีการรับรองการสืบทอดมรดกจากสามี
เมื่อได้ยินคำตอบจากธนาคาร เธอรู้สึกโกรธมากและไม่สามารถยอมรับได้ เนื่องจากเธอได้เตรียมเอกสารทั้งหมดตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว เธอจึงตัดสินใจยื่นฟ้องธนาคาร โดยหวังว่าจะสามารถเรียกความยุติธรรมและเงินจำนวนดังกล่าวคืนมาได้
ในการพิจารณาคดี ธนาคารระบุว่า นางหวังหว่านยังไม่ได้ให้หลักฐานที่พิสูจน์ว่าเธอเป็นผู้ทายาท ซึ่งจำเป็นต้องมีใบรับรองการสืบทอดมรดกเพื่อที่จะสามารถถอนเงินออมได้
ตามประมวลกฎหมายแพ่งของจีน มาตรา 1123 กำหนดว่า การจัดการมรดกต้องทำตามกฎหมาย หากมีพินัยกรรม จะต้องดำเนินการตามพินัยกรรมหรือมรดกที่ได้ระบุไว้ ซึ่งเป็นข้อโต้แย้งจากทางคุณหวังหว่าน
แม้ว่าจำนวนเงิน 1.9 ล้านหยวน จะเป็นเงินออมของนายโม่ซึ่งเป็นผู้ถือบัญชี แต่ในตอนแรกมันถือเป็นทรัพย์สินร่วมของทั้งสองสามีภรรยา ดังนั้นหากนายโม่ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ นางหวังหว่านและลูก ๆ ย่อมมีสิทธิ์ในมรดกนี้ แต่เนื่องจากนายโม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ เธอจึงมีสิทธิ์ในการสืบทอดทรัพย์สินทั้งหมดของสามี ดังนั้นเธอจึงขอให้ธนาคารคืนเงินจำนวน 1.9 ล้านหยวน พร้อมดอกเบี้ย
หลังจากพิจารณา ศาลได้ชี้ให้เห็นว่า ประเด็นสำคัญของคดีนี้คือการยืนยันว่า นางหวังหว่านมีสิทธิ์ในเงินออมจากสามีหรือไม่ ดังนั้นศาลจะตรวจสอบความถูกต้องและความชอบธรรมของพินัยกรรมที่เธอมีอยู่
พินัยกรรมที่นายโม่ทิ้งไว้เป็นพินัยกรรมที่ทำเป็นลายลักษณ์อักษร และมีลายเซ็นของพยานครบถ้วน นอกจากนี้ นางหวังหว่านยังได้แสดงวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ขณะที่นายโม่เซ็นพินัยกรรม ทำให้พินัยกรรมได้รับการยืนยันว่าเป็นพินัยกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย
เมื่อพิจารณาแล้ว ศาลได้สั่งให้ธนาคารคืนเงินจำนวน 1.9 ล้านหยวน (ประมาณ 9.1 ล้านบาท) พร้อมดอกเบี้ยให้กับนางหวังหว่าน