สาวท้องตื่นมาอ้วกหนัก ต้องผ่าไส้ติ่งออก คลอดทั้งที่เพิ่งตั้งครรภ์ได้ 33 สัปดาห์ รู้เมนู “มื้อเย็น” หมอกุมหัว
หญิงตั้งครรภ์ต้องใส่ใจกับการรับประทานอาหาร เพื่อสุขภาพของทั้งตัวแม่เองและทารกในครรภ์ ล่าสุด มีกรณีหญิงชาวจีนอายุ 30 ปี ประสบเหตุการณ์อันตรายขณะที่ตั้งครรภ์ได้ 33 สัปดาห์ เพราะอาหารที่ทานเพียงชามเดียวในมื้อเย็น
ตามรายงานพบว่า ในมื้อเย็นคุณแม่ยังสาวรายดังกล่าวได้ทาน “หม่าล่าทัง” หรือซุปเผ็ดแบบจีน หลังจากนั้นเริ่มรู้สึกหดเกร็งในช่องท้องส่วนบน กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นจึงอาเจียนอาหารออกมาจนหมด และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน จำเป็นต้องผ่าตัดคลอดก่อนกำหนด รวมทั้งตัดไส้ติ่งออกทันที เพื่อสุขภาพของทั้งแม่และเด็ก โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากแพทย์ จึงสามารถคลอดบุตรชายได้อย่างปลอดภัย
แพทย์ยังย้ำเตือนด้วยว่า สตรีมีครรภ์ “ไม่ควร” กินอาหารรสจัดมาก เนื่องจากระบบย่อยอาหารค่อนข้างอ่อนไหวและเปราะบาง ดังนั้น ส่วนผสมที่มีรสเผ็ดอาจทำให้ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดภาวะไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน รวมทั้งความผิดปกติของการเคลื่อนไหวของลำไส้ ซึ่งไส้ติ่งอักเสบยังส่งผลต่อมดลูกอีกด้วย การหดตัวทำให้แท้งง่าย หรือคลอดก่อนกำหนด และส่งผลต่อสุขภาพของทารกในครรภ์
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและปัจจัยอื่นๆ สตรีมีครรภ์บางคนจึงรู้สึกอยากทานอาหารรสเผ็ด ในกรณีนี้คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรับประทานอาหารรสเผ็ดในปริมาณที่พอเหมาะ หลีกเลี่ยงการทานอาหารรสเผ็ดในปริมาณมากและบ่อยครั้งทุกวัน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินอาหาร ควรเลือกอาหารประหยัดที่ย่อยง่ายและหลีกเลี่ยงการกินมากเกินไป ที่อาจทำให้ประสบปัญหาอื่นๆ ตามมามากมาย
- กินของทอดเสี่ยงมะเร็ง นักพิษวิทยาแนะกิน 3 สิ่งนี้ ช่วยล้างพิษได้ อร่อยด้วย!
- แพทย์อเมริกัน แนะนำเครื่องดื่ม 3 ชนิด ที่ตับและระบบย่อยอาหาร “ชอบ” ทุกอย่างมีขายในไทย!