คนขับรถบัสนักเรียน พูดแล้ว! เกิดอะไรขึ้นก่อนไฟไหม้ ยันช่วยดับไฟก่อน ไม่ได้หนีทันที ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา
(2 ต.ค.67) พลตำรวจตรีชยานนท์ มีสติ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พลตำรวจตรียุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พ.ต.อ.กานตภณ วรรณา ผกก.สภ.คูคต และ ผู้เกี่ยวข้อง เดินทางมาติดตามการสอบปากคำ นายสมาน คนขับรถโดยสารรับส่งนักเรียนไปทัศนศึกษา ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ บนถนนวิภาวดี ขาเข้า หลังตำรวจได้มีการกดดันและติดตามเส้นทางการหลบหนี จนทำให้นายสมานประสานเข้ามอบตัวกับตำรวจสภ.วิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เมื่อช่วงค่ำวานนี้และทางตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มที่ สภ.คูคตทันที
พลตำรวจตรีชยานนท์ เปิดเผยว่าจากการสอบปากคำเจ้าตัวให้การอ้างว่า ตัวเองขับรถบัสมาเป็นคันที่สองในขบวน โดยขับด้วยความเร็วประมาณ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รถได้เสียหลักคล้ายกับตกหลุม ทำให้ตัวรถมีอาการคล้ายกับยางระเบิดหรือถุงลมแตก โดยรถจะมีลักษณะเป็นโช้กที่ถุงลม ขณะขับขี่คล้ายรถจะเอนไปทางด้านขวา จนทำให้เกิดการเฉี่ยวชนกับรถเก๋งเบนซ์คู่กรณี ซึ่งขณะนั้นตัวเองพยายามที่จะบังคับรถ จนรถไปชนเข้ากับแบริเออร์ข้างทาง จนเกิดประกายไฟ โดยหลังเกิดเหตุตนเองได้วิ่งไปหยิบถังดับเพลิงที่รถบัสคันหลังซึ่งตามมาในขบวน แต่ระหว่างนั้นรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงตัดสินใจหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุไปพักอยู่ที่บ้านญาติในจังหวัดอ่างทอง
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายสมานรวม 4 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตราย แก่บุคคลหรือทรัพย์สิน, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่ บุคคลและไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ไม่แสดงตัว และไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานเป็นเหตุให้บุคคล ถึงแก่ความตาย โดยขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลจังหวัดธัญบุรีได้ภายในวันนี้หรือไม่ เพราะยังมีประเด็นที่จะต้องสอบสวนและสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัวผู้ต้องหา 48 ชั่วโมง ส่วนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับเจ้าของรถหรือไม่นั้น
ขณะนี้อยู่ระหว่าง รอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบสภาพรถ รวมถึงถังก๊าซเพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำ รถคันที่เกิดเหตุไปตั้งไว้ชั่วคราวที่อนุสรณ์สถานเพื่อรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอีกครั้งในวันนี้ ช่วงเวลาประมาณ 09:00 น.
สำหรับอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คนขณะนี้ พบมีอาการสีแดง 2 คน คือเด็กอายุ 7 ขวบ และ 9 ขวบ เบื้องต้นได้มีการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนอีกหนึ่งคนอายุ 14 ปี ยังอยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต และในช่วงเวลาประมาณ 08.30 น.ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคูคตจะเข้าไปดำเนินการตั้งโต๊ะเพื่ออำนวยความสะดวกในการสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาได้มีญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมาเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว 15 คน คงเหลืออีก 8 คนที่อยู่ระหว่างเดินทางมาจากจังหวัดอุทัยธานี