สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 ต.ค.67 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้และเปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่าเป็นรถจากโรงเรียนในพื้นที่จ.อุทัยธานี มาทัศนศึกษาในกทม. คันที่เกิดเหตุมีทั้งหมด 44 คน เป็นครู 6 คน เด็กนักเรียนตั้งแต่อนุบาล 38 คน เบื้องต้นช่วยเหลือครูออกมาได้ 3 คน นักเรียน 16 คน ยังต้องค้นหาครูอีก 3 และนักเรียนที่เหลืออีก 22 คน

สาเหตุ ไฟไหม้รถบัส

นายสุริยะ กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากรถบัสเกิดยางระเบิด และรถเสียหลักไปเฉี่ยวชนกับแบริเออร์บริเวณเกาะกลางถนน ทำให้มีวัตถุบางอย่างไปกระแทกกับถังก๊าซของรถ ทำให้เกิดประกายไฟ แต่ต้องรอตรวจสอบรถและถังก๊าซอีกครั้ง โดยหลังจากนี้ตนจะไปทบทวนเรื่องของรถบัสที่ใช้ก๊าซ

ส่วนการช่วยเหลือตอนนี้รถบัสยังมีความร้อน ต้องใช้น้ำฉีดเลี้ยง เพื่อลดความร้อนก่อนจะให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปด้านใน โดยรัฐบาลมีความเป็นห่วงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

รายงานจำนวน ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ผู้สูญหาย ไฟไหม้รถบัส

ผู้เดินทางทั้งหมด 44 คน เป็นครู 6 คน เด็กนักเรียนตั้งแต่อนุบาล 38 คน เบื้องต้นช่วยเหลือครูออกมาได้ 3 คน นักเรียน 16 คน ยังต้องค้นหาครูอีก 3 และนักเรียนที่เหลืออีก 20 คน

ด้าน นายเอกนรินทร์ ฉลาด ครูประจำชั้น ป.5 โรงเรียนที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตนนั่งอยู่รถคันที่หนึ่ง เมื่อช่วงเช้าไปทัศนศึกษาที่จ.พระนครศรีอยุธยา และกำลังเข้ามาดูนิทรรศการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต แถวพระราม 7 แต่ระหว่างทางตนไม่ได้ยินเสียงระเบิดหรือเสียงอะไร แต่ไม่สามารถติดต่อครูที่อยู่คันที่สองได้ จึงวนรถกลับมา และเห็นว่ามีเพลิงไหม้เกิดขึ้นแล้ว ยอมรับว่าตกใจและสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เพราะก็สอนเด็กในรถที่เกิดเหตุ ยอมรับตอนนี้ยังเสียขวัญอยู่

ด้านนักการภารโรง ที่นั่งมาครั้งที่ 3 บอกว่า นั่งตามรถคันเกิดเหตุมา ห่างประมาณ 200 เมตรและเห็นว่าข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุ ตนจึงลงมาดูพบว่าเป็นรถบัสโรงเรียนตนเอง ตกใจมาก เพราะเห็นไฟลุกไหม้ช่วงกลางรถบัสอย่างรุนแรง และเห็นเด็กนักเรียนบางคนวิ่งออกมาจากรถบัส สอบถามเจ้าที่กู้ภัยบอกว่ารถคันที่เกิดเหตุยางแตกไปเฉี่ยวชน ทำให้ไปโดนถังก๊าซที่อยู่กลางคันและเกิดไฟลุกท่วม จนตอนนี้ตนเองยังตกใจกลัวอยู