วันที่ 30 ก.ย. 67 เวลา 06.00 น. ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล ที่อยู่บริเวณชายหาดบูโบย พบ “โลมาสีชมพู” ตัวใหญ่ น้ำหนักประมาณ 100-150 ก.ก. นอนเกยตื้นอยู่ จึงได้แจ้งนายสมบัติ สันมาแอ ผช.ผญบ. หมู่3 จากนั้นก็ช่วยกันนำเชือกมาคล้องตัวโลมา ส่งกลับคืนทะเล
นายสมบัติ สันมาแอ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล เล่าว่า โลมาสีชมพู มีบาดแผลที่หางเล็กน้อย เป็นรอยขีดข่วน 2 จุดที่โคนหางและใต้ท้อง มีทรายติดที่ลูกตา โลมา เริ่มอ่อนแรง คาดว่าน่าจะติดอยู่4-5 ชั่วโมงแล้ว
โดย โลมาตัวใหญ่ และมีน้ำหนักมากไม่สามารถ ลากลงทะเลได้ จึงได้นำเชือกมาคล้องตรงลำตัวแล้วให้ชาวบ้านช่วยกันลาก ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็สามารถลากโลมาลงสู่ทะเลได้อย่างปลอดภัยคาดว่า โลมา ตัวดังกล่าวน่าจะตามฝูงเข้ามาหากินในช่วงน้ำขึ้นในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาและลงกลับทะเลไม่ทันเพราะเป็นช่วง 13 ค่ำ น้ำทะเลจะลดเร็วและลดมากจึงได้เกยตื้นอยู่บนชายหาดดังกล่าว
- ภัยหน้าฝน! งูเห่าเลื้อยเข้าห้องนอน ฉกเด็กชายวัย 13 อาการสาหัส
- รมช.คลัง ยันชัด! แจกเงินเฟส 2 ลุ้นโอน 10,000 แน่ ไม่มีลดเหลือ 5,000
- CIB เผย! คดี ‘แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์’ ถูกคัดค้านการประกันตัว เตรียมฝากขังพรุ่งนี้
ด้านนายวัฒนา โกบเม็ง ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานจากชาวในพื้นที่ทราบว่า ในพื้นทีมีโลมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเนื่องจากในพื้นที่มีทรัพยากรทางทะเลที่สมบูรณ์ ชาวบ้านที่ออกทำประมงจะพบทุกวันบางครั้งก็เจอเป็นฝูงใหญ่มากกว่า 10 ตัว บางครั้งก็อยู่เป็นคู่แต่ไม่เคยเห็นโลมาสีชมพูตัวนี้เลย คาดว่าโลมาตัวดังกล่าวคงเพิ่งย้ายถิ่นมาจากที่อื่นไม่คุ้นเคยกับพื้นที่จึงทำให้มาเคยตื้นอยู่ดังที่เห็น
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นางเสาวคนธ์ รุ่งเรือง นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลสตูล ได้ทราบข้อมูลว่า โลมาตัวดังกล่าวเป็นโลมาหลังโหนกที่ไม่ค่อยพบเจอในทะเลสตูลแต่ก็มีพบเจอในพื้นที่ทะเลตรังที่มีทะเลติดต่อกับจ.สตูล จึงเป็นไปได้ว่าโลมาตัวดังกล่าวอาจจะย้ายถิ่นจากทะเลตรังเข้ามาหากินในทะเลสตูล