เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการจ่ายเงิน โครงการแจกเงิน 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กลุ่มเปราะบาง เป็นเฟสแรก จากกรมบัญชีกลางโอนเงินให้กับผู้มีสิทธิทั้งหมด 14.5 ล้านคน ได้แก่ ผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ และ ผู้พิการ ที่ทางรัฐบาลจะโดนเงินสดเข้าบัญชีให้ประชาชนในกลุ่มแรกนี้โดยตรงเริ่มตั้งแต่วันที่ 25-30 ก.ย.2567 นี้ ที่จะเป็นการโอนเงินเข้าผ่านระบบพร้อมเพย์ที่เชื่อมเลขบัตรประชาชนรับเงิน 10,000 บาท โอนเข้าบัญชีโดยตรงจากรัฐบาล วันนี้เป็นวันแรก

ทำให้บรรยากาศ ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดเจ้าพรหม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีประชาชน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ คนพิการ นำสมุดธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม มีตรวจสอบยอดที่เงินเข้าบัญชี และ รอเบิกเงิน 10,000 บาท ที่ทางรัฐบาลมีการโอนเงินเข้าบัญชีแล้วมาตั้งแต่หลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา

โดยผู้สูงอายุ และคนพิการหลายคน ไม่สะดวกในการกดเงิน ที่ตู้ ATM ใช้วิธิการถอนเงิน ที่เคาร์เตอร์ภายในธนาคาร จนแน่นธนาคาร เจ้าหน้าที่ ต้องเพิ่มช่องบริหารในถอนเงิน

• ‘เด็จพี่’ หอบหลักฐาน แฉ! ‘บิ๊กป้อม’ ตั้งใจลาประชุมสภา ไปแล้ว 84 ครั้ง

• คลังแนะ รีบแก้ไขข้อมูลบัตร หลังคนพิการกว่า 9 หมื่นคน โอนเงิน 10000 ไม่ผ่าน

• ทนายตั้ม จี้สอบวินัย รองอธิบดีอัยการ แอบตีท้ายครัว ภรรยานักธุรกิจจีน

ทุกคนดีใจที่ได้รับเงิน จำนวน 10,000 บาท ก็จะรีบนำไปใช้จ่าย ซื้อของใช้จำเป็น ดูแลเลี้ยงหลาน ดูแลญาติคนพิการ ซึ่งสามารถลดรายจ่ายในครอบครัวได้มาก

นายสุเมธ พัสดุ อายุ58ปี กล่าวว่า ส่วนของตนเองเงินยังไม่เข้า มาเช็คเงินของลูกชาย อายุ 23 ปี ซึ่งพิการ เงินเข้าแล้ว จะนำเงินส่วนนี้ เป็นทุนการศึกษาให้ลูก ช่วยแบ่งภาระของครอบครัวได้มาก เป็นโครงการที่ดีสามารถเบิกเงินสดไปใช้จ่ายได้เลย

ด้าน นางจำนงค์ บุญดี อายุ76 ปี เปิดเผยว่า วันนี้ให้คนในหมู่บ้านพามาเช็คยอดเงินเข้าจากบัญชีธนาคาร ดีใจมากๆที่รู้ว่ามีเงินเข้าแล้ว ปกติจะมีเงินจากผู้สูงอายุ และคนพิการ ใช้จ่ายในครอบครัว และดูแลเลี้ยงหลานอีก 2 คน และนำเงินไปซื้อยา ไปหาหมอ วันนี้กดเงินมาใช้ก่อน 3,000 บาท ที่เหลือเก็บเอาไว้เอามาใช้จ่ายที่จำเป็น

นางจำนงค์ กล่าวทั้งน้ำตา และยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัว ขอบคุณ นายกรัฐมนตรีหญิง และรัฐบาลมากๆ ที่เงินมาช่วยเหลือประชาชน ขอให้เจริญๆ เป็นนายกไปตอลดไปทั้งชาติเลยชอบตั้งแต่ตอน นายกทักษิณ แล้ว ปราบปรามยาเสพติดดี ลูกมาเป็นนายกอีกยิ่งชอบ

นายรอไฮย์ ลิเซ็น อายุ 68 ปี อดีตทหารผ่านศึก ร่างกายพิการ มาเบิกเงินจำนวน10,000 บาท หลังจากที่ได้รับเงินทันที กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รับเงินจำนวนนี้ซึ่งมีประโยชน์กับคนยากคนจนอย่างตนเองมากจะนำเงินนี้ไปดูแลเลี้ยงหลานซึ่งพิการ และลูกที่พิการ ด้วย

“ที่ต้องเบิกเงินจำนวน 10,000 บาทภายในครั้งเดียวเลยเพราะ ไม่สะดวกที่จะต้องเดินทางมาบ่อยบ่อยหรือไปกดเงินจึงมาเบิกเงินครั้งเดียวเพื่อนำไปใช้เลยเนื่องจากร่างกายพิการ”