“สุดารัตน์” จี้เร่งตรวจเชื้อโควิดเพิ่มหลังหลังดาวน์ เพิ่มเตียงสนาม จ่ายยา”ฟาวิพิราเวียร์” เตือน ต้องเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจ
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงมาตรการล็อกดาวน์ที่ออกมาของ ศบค. ว่า เรียกการล็อกดาวน์ หรือไม่เรียกล็อกดาวน์ เพื่อเลี่ยงการจ่ายค่าเยียวยาก็ตาม แต่ “เจ็บแล้ว…ต้องจบ” จริง ในฐานะที่เป็นอดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เห็นว่า รัฐต้องทำมาตรการทางสาธารณสุขและมาตรการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ หรือการเยียวยา เพิ่มเติม ควบคู่กับการ ล็อกดาวน์ เพื่อให้การเจ็บครั้งนี้ แล้วจบปัญหาได้จริง หัวใจหลักของการควบคุมโรคระบาด อย่างโควิดคือต้องเร่งแยกผู้ป่วยผู้ติดเชื้อออกจากชุมชน เพื่อควบคุมการระบาดและช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาเร็วขึ้น ป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยอาการหนักและตาย
จึงต้องเพิ่มการตรวจเชื้อให้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ระบาดหนักแบบสีแดงเข้ม ที่ปัจจุบันทั่วประเทศ ตรวจเพียงวันละประมาณ 10,000กว่าคนเท่านั้นและในจำนวนที่ตรวจ ก็พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 50% ไปแล้ว และควรที่จะส่ง “Rapid Antigen Test” ให้ประชาชนทุกบ้านในพื้นที่แดงเข้ม เพื่อให้ประชาชนตรวจคัดกรองด้วยตัวเองเบื้องต้นก่อน
นอกจากนั้นต้องเร่งเพิ่มเตียงสนาม (เตียงเขียว) ในกรุงเทพ ต้องมีทุกเขตทั้ง 50 เขตและต้องมีจำนวนให้มากพอที่จะรองรับผู้ติดเชื้อที่ไม่สามารถทำ Home isolation เองได้
และ ที่สำคัญคือต้องจ่ายยา”ฟาวิพิราเวียร์” และยารักษาตามอาการอื่นๆที่สำคัญต้องมีวัคซีนหลากหลาย ให้ประชาชนมีสิทธิ์เลือกว่าจะฉีด AZ หรือ mRNA เองได้และในอนาคต โควิดจะมีการกลายพันธุ์ต่อเนื่อง จึงต้องเตรียมจัดซื้อวัคซีนตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงพอที่จะสามารถป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ใหม่ๆได้อย่างNovavac ไว้ด้วย
สุดท้ายมาตรการที่รัฐบาลออกมาวันนี้ ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องมาตรการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ หรือการเยียวยา ถ้ารัฐบาลไม่มีมาตรการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจตนเชื่อว่าจะส่งผลให้ประเทศไทยต้องพบกับวิกฤติทางเศรษฐกิจระดับ “สึนามิ” ในเร็วๆ นี้