เด็ก 6 ขวบ หายตัวข้ามคืน จู่ๆ โผล่จากถุงปุ๋ยข้างบ้าน เล่าว่าไปอยู่กับ “ยายแสงจันทร์” รู้ว่าเป็นใครยิ่งขนลุก
วันที่ 24 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ย.67 เพจศูนย์แจ้งข่าวบุรีรัมย์ ได้ประกาศเด็กหาย เป็นเด็กชายอายุ 6 ขวบ หายออกจากบ้านไปตั้งแต่เวลา 20.00 น.คืนวันที่ 22 ก.ย.ยังไม่ทราบชะตากรรม
ต่อมาวันที่ 23 ก.ย.หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม ร่วมกับชาวบ้านเสม็ด หมู่ 9 ต.สองชั้น อ.กระสั่ง ซึ่งเป็นบ้านของ ด.ช.ชนาธิป หรือ น้องเอ็มร้อย อายุ 6 ขวบ ที่หายตัวไป ระดมค้นหาตามจุดต่างๆ เช่นสระน้ำ หรือป่าชุมชน ตลอดทั้งวันหาไม่พบหน่วยกู้ภัยต้องหยุดการค้นหาชั่วคราว แต่ครอบครัวน้องเอ็มร้อยและชาวบ้าน ยังตระเวนค้นหาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งออกไปถามหมอดูหรือพระ เพื่อเป็นแนวทางในการค้นหา แต่ตลอดทั้งคืนวันที่ 23 ก็ไม่พบตัวน้อง
ล่าสุดเวลา 06.00 น.วันนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบตัวเด็กแล้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบ สิ่งที่ชาวบ้านเหลือเชื่อคือน้องออกมาจากถุงปุ๋ยข้างยุ้งข้าว ห่างจากบ้านน้องประมาณ 30 เมตร และเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านตามค้นหาหลายรอบ สอบถามน้องเอ็มร้อย บอกว่าวันที่หายตัวไปเป็นตอนค่ำ ได้มียายแก่หน้าสามเหลี่ยม ผมยาว เล็บยาวกวักมือให้ไปหา จึงเดินไปกับยายแก่ยายบอกว่า ยายชื่อแสงจันทร์ แต่ไม่รู้ว่าพาไปไหน
ระหว่างนั้นยายแสงจันทร์ ได้เอาฝรั่งมาให้กินประมาณ 30 ลูก ตนก็กินไปแต่ไม่รู้สึกหิว ไม่มียุงมากัด และไม่รู้ว่าอยู่มาได้กี่วัน จนกระทั่งยายบอกว่า “กลับไปเหอะ” จึงเดินออกมา
นาย ณัฐิวุฒิ อายุ 25 ปี น้าชายน้องเอ็มร้อย เล่าว่า หลังทราบข่าวได้โพสต์ไปตามสื่อต่างๆ แล้วออกตามหายอมรับว่าหาทุกที่ที่คิดว่าเด็กจะไปทั้งสระน้ำ และป่า มีไสยศาสตร์ตรงไหนไปหาหมดเพื่อต้องการเจอน้อง แต่ไม่เจอ จนกระทั่งมาทราบว่าน้องไปอยู่ในกระสอบถุงปุ๋ย เพื่อนบ้านเป็นคนเห็นว่าน้องเปิดกระสอบถุงปุ๋ยออกมา เพื่อนบ้านบอกอีกว่าตอนเวลาประมาณเที่ยงคืน ได้ยินเสียงไอ แต่ไม่มีใครกล้าลงมา หลังจากเจอน้องตรวจตามร่างกายทุกอย่างปกติ มีอาการตกใจนิดหน่อย ไม่มีร่องรอยยุงกัด เหมือนเด็กไม่ได้ไปไหน
ด้าน นางพลวย อายุ 67 ปี ยายเด็กเล่าว่า ตนเป็นคนเลี้ยงน้องเอ็มร้อย เพราะพ่อแม่น้องไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด หลังเกิดเรื่องพยายามค้นหาและไปหาหมอดู พระรูปหนึ่งบอกว่าเด็กไม่ได้ไปไหน อยู่แถวกระท่อมข้างบ้าน พระบอกตนด้วยว่า มีบางสิ่งบางอย่างพาหลานไป ตนถามพระว่าแล้วหลานจะอยู่อย่างไรอดข้าวอดน้ำ พระตอบว่าคนที่พาไปเขาดูแลอย่างดีมีอาหารกิน ถึงแม้พระจะช่วยตามหาแต่หาอย่างไรก็หาไม่เจอ
เที่ยงคืนที่ผ่านมาตนได้ไปเซ่นผีตามที่ต่างๆ ขอให้เปิดตาให้หาหลานให้เจอ พระปลอบใจอีกว่า ไม่นานเขาก็ปล่อยมาตนจึงเข้าไปตอนเวลาประมาณตี 3 จนกระทั่งชาวบ้านมาบอกว่าเจอหลานแล้ว
นางพลวย บอกด้วยว่าตนแปลกใจมากตรงที่หลานไปอยู่พวกตนเดินหาหลายรอบ แต่ไม่พบเห็นแต่ถุงปุ๋ย แต่ไม่เห็นคน ส่วนตัวเชื่อว่ามีสิ่งลี้ลับพาไปจริง โดยเฉพาะจุดที่หลานไปอยู่เป็นที่ดินของปู่ย่าตายาย ส่วนชื่อแสงจันทร์ที่หลานเอ่ยขึ้นมาคือเป็นเจ้าของที่ดินเมื่อ 200 ปีที่ผ่านมา สรุปหลานหายไปทั้งหมด 34 ชม.