ยุติการเคลื่อนย้ายสารสไตรีนจากโรงงานกิ่งแก้วไปทำลาย หลังมีฝนตกพื้นที่ถมใหม่ไม่สามารถรับน้ำหนักรถที่ใช้ขนย้ายได้

การเคลื่อนย้ายสารเคมีสไตรีน ซึ่งยังหลงเหลืออยู่ในถังบรรจุขนาดใหญ่ของบริษัท หมิงตี้ เคคมีคอล ที่เกิดระเบิดและไฟลุกไหม้ ไปทำลายจำนวน  6 แสนลิตร ในวันนี้ผู้ชำนาญการได้เข้าดูหน้างานและจัดเตรียมสถานที่เพื่อทำการเคลื่อนย้ายสารอันตรายดังกล่าว ขณะที่ทางบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล ได้นำรถแบคโฮ มาทำการเคลียร์เส้นทางซากปรักหักพังออกจากพื้นที่เพื่อเคลียร์ทางให้รถโอโซนแทงก์ขนาดความจุ 24 คิว เข้าไปประชิดตัวถังได้ให้มากที่สุด โดยได้มีนำทรายจำนวนมาก มาเทปรับพื้นทำทางเข้าไป

แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ของบริษัท อัคคีปราการ จำกัด(มหาชน) เข้ามาตรวจสอบแล้ว ทรายที่นำมาปรับเป็นเส้นทางเข้าออกของรถโอโซนแทงก์ ไม่สามารถรองรับน้ำหนักของรถได้ หลังจากเข้าไปโหลดสารเคมีดังกล่าวเข้าแทงก์แล้ว ในวันนี้จึงจำเป็นต้องยุติกระบวนการเคลื่อนย้ายสารเคมีดังกล่าวเอาไว้ และในคืนนี้ทางบริษัท หมิงตี้ จะเข้าดำเนินการปรับเส้นทางเข้าอีกครั้งเพื่อให้รองรับน้ำหนักของตัวรถ และน้ำหนักของสารเคมีที่ถูกโหลดเข้าในแทงก์บรรจุแล้วได้ หรืออาจมีการปรับแผนในแผ่นเหล็กเข้ามาปูทับเพื่อรองรับน้ำหนักของตัวรถและสารเคมี ซึ่งได้มีการนำรถเข้ามาทดสอบการวิ่งเข้าออกด้วย 

นายศุภวัฒน์ คุณวรวินิจ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการตลาด บริษัท อัคคีปราการ จำกัด(มหาชน) ได้เปิดเผยว่า เส้นทางที่เตรียมไว้ในการปฏิบัติการขนย้ายสารเคมีสไตรีนที่อยู่ในถังกักเก็บในวันนี้ต้องถูกยกเลิก เนื่องจากเมื่อช่วงเช้ามีฝนตกหนักมาในพื้นที่ ทำให้พื้นที่ที่รถจะมาขนถ่ายไม่แข็งแรง ทางเรากลัวว่าถ้ารถรับน้ำหนักแล้วออกมาพื้นทรุดก็จะเกิดปัญหาตามมา ส่วนเส้นทางที่จะเข้าไปนำสารเคมี นั้นมันมีระยะทางที่สั้นเกินไป อยากจะให้เข้าไปได้ใกล้กว่านี้เพื่อความปลอดภัย เพราะฉะนั้นวันนี้อาจจะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่เตรียมทำทางเพิ่มขึ้นตัดทางใหม่ให้เข้าไปใกล้มากขึ้น ส่วนของอากาศ ฟ้า ฝน และมืดเร็วกว่าปกติ ดูแล้วถ้าปฏิบัติภารกิจไปก็ทำได้แค่ประมาณครึ่งชั่วโมง มันก็จะติดขัดกันมากเข้าไปอีก โดยในคืนนี้และพรุ่งนี้เช้าจะเคลียร์ทางให้เสร็จเรียบร้อยแล้วถึงเริ่มภารกิจใหม่ โดยที่เราเตรียมอุปกรณ์มาพร้อมแล้ว และจะเริ่มปฏิบัติการต่อในวันพรุ่งนี้เวลาประมาณ 09.00 น

โดยก่อนเวลาปฏิบัติงานเราจะเข้ามาประเมินความเสี่ยงอีกครั้ง ทั้งเรื่องพื้นที่และสภาพอากาศ ถ้าเกิดมีการยุบตัวอาจจะต้องใช้แผ่นเหล็กมาวางเพื่อให้รถเข้าออกได้ โดยทางเราก็พยายามทำงานให้เร็วที่สุด โดยจะนำสารเคมี สไตรีน ไปทำลายที่ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด(มหาชน) ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซอย 1 โดยรถแต่ละคันจะรับสารเคมีได้ประมาณ 25 คิว จะต้องขนถ่ายประมาณ 24 เที่ยว โดยคาดการว่าจะนำสารเคมีทั้งหมดออกไปทำลายได้ภายใน 5 วัน แต่ถ้าสภาพอากาศดีไม่มีอะไรติดขัดน่าจะเร็วขึ้นไม่เกิน 3 วัน โดยรถขนถ่ายเรามีเพียงพอและระยะทางไม่ไกล เราสามารถทำงานได้ตลอดเวลา

ส่วนวิธีการทำลายสารสไตรลีน โดยการนำไปเผาทำลายที่เตาเผาอุณหภูมิสูง ที่มีความร้อน 1000 องศา ขึ้นไป โดยในประเทศไทยที่เป็นเตาเผาอุตสาหกรรมมีอยู่ที่เดียวที่คือ บริษัทอัคคีปราการ จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นเตาเผาของกรมโรงงานอุตสาหกรรมเอง โดยที่ในประเทศไทยมีเพียง 2-3 แห่งเท่านั้น ที่สามารถจัดการกับสารตัวนี้ได้ ขั้นตอนการทำลายสารเคมีประเภทนี้ทำลายโดยการฉีดเข้าไปในเตาเผา เพื่อทำลายโมเลกุล ต้องให้ความร้อนและเวลาในการเผาไหม้นานพอสมควร โดยคาดว่าจะเผาได้ชั่วโมงละ 3 ตัน แต่เรามองว่าความเดือนร้อนของประชาชนที่ต้องการที่จะกลับเข้าบ้านเรือน เราจึงจัดเตรียมแทงก์หรือที่กักเก็บขนาด 600 ตัน ไว้ ก็สามารถดูดและไปเก็บไว้ที่แทงก์ได้เลยเพื่อทยอยทำลายต่อไป โดยระหว่างกักเก็บสารเคมีตัวนี้ไม่มีอันตราย โดยที่จริงสารเคมีตัวนี้เป็นสารเคมีปกติที่ใช้ในอุตสาหกรรมเรซิ่น อุตสาหกรรมพลาสติก ซึ่งทางบริษัท อัคคีปราการ จำกัด(มหาชน) ก็มีการไปรับสารเคมีตัวนี้มาทำลายบ่อยครั้ง โดยสารตัวนี้เรารับมาแล้วเราก็ทำลายอย่างเร็วที่สุด