“หัวชาร์จมือถือ” ไอเทมคู่ใจที่หลายคนมองข้าม แต่รู้ไหมว่าการเลือกที่ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจสร้างความเสียหายให้กับโทรศัพท์สุดรักของคุณได้! จะป้องกันปัญหากวนใจเหล่านี้ได้อย่างไร? วันนี้เรามีทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเลือกที่ชาร์จให้ได้มาตรฐานมาฝากกัน
มาตรฐานที่คุณต้องรู้ก่อนที่จะซื้อหัวชาร์จใหม่
สำหรับการดูข้อมูลของหัวชาร์จนั้นไม่ยากครับแต่จะหลายชิ้นหน่อยประกอบด้วย
- จำนวน Output ซึ่งแต่ละรุ่นจะบอกไม่เหมือนกันแบ่งออกเป็น
- USB-C1, C2, USB-A หรือมากกว่านั้นคือแต่ละช่องจ่ายไฟเท่าไหร่
- W Max จะบอกกำลังสูงสุด เช่น 100W
- จำนวน Input จุดนี้สำคัญคือถ้าเขียน 100 – 240V เท่ากับใช้ได้หลายประเทศ เพราะประเทศไทยใช้ไฟ 220V
- มาตรฐานอื่นๆ ที่เป็นสัญลักษณ์มีดังนี้
- เครื่องหมาย FCC = ผ่านมาตรฐาน FCC หรือ มอก. ของสหรัฐอเมริกา
- รูปบ้าน = มาตรฐาน IEC 60417-5957 สำหรับใช้กับอุปกรณ์ในบ้าน
- เครื่องหมาย TUV และ PSE = ผ่านมาตรฐาน PSE ที่มี TUV SUD เป็นผู้รับรอง
- เครื่องหมาย VI = รองรับประสิทธิภาพพลังงานระหว่าง Off-Load ที่ระดับที่ 6
- เครื่องหมาย TUV SUD ตัวใหญ่ = ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของสหรัฐ หรือ US Safety จาก TUV SUD
- รูปสี่เหลี่ยมคือ ที่ชาร์จนี้มีฉนวน 2 ชั้น (Class II)
- ส่วนมาตรฐาน มอก. ของประเทศไทยคือ TSI นะครับ
และจริงๆ จะมีมาตรฐานอื่นๆ เช่นในอินเดียเช่น BIS, UKCA, Intertek รวมถึง SGS อีกด้วยเรียกว่ามันถือว่าเยอะ แต่เดี๋ยวนี้ที่ชาร์จที่มีราคาสูงก็จะมีมาตรฐาน Double Insulation Class II ซึ่งที่ชาร์จแบบนี้เป็นที่พูดถึงโดยเฉพาะของ Samsung ที่เคยออกมาบอกก่อนหน้านี้ โดยที่ชาร์จแบบดังกล่าวนั้นคือจะมีฉนวนป้องกัน 2 ชั้น เท่ากับไม่ต้องมีสายดินก็สามารถทำงานได้เช่นเดียวกัน
และกว่าจะได้กว่าจะได้มานั้นก็ไม่ใช่ง่าย ต้องผ่านห้องทดลองหลายๆ แหล่ะ ก็จะมีค่าใช้จ่ายแต่แลกกับความปลอดภัยทั้งของที่ขายในประเทศไทยและทั่วโลกนั่นเอง ดังนั้นการให้ความสำคัญในการดูฉลาก ก็จะทำให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานด้วยครับ