เมื่อเวลา 12.45 น.วันที่ 18 ส.ค.พ.ต.ท.นคร ตั้งรวมทรัพย์ สว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทอง ภายในห้างทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรัชดา กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวนและฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุตั้งอยู่บนห้างฯ ชั้น 2 เป็นร้านจำหน่ายทองคำรูปพรรณและทองคำแท่ง ติดกับเชิงบันไดเลื่อน พบพนักงานอยู่ในร้านมีอาการตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพบว่ามีคนร้ายเป็นชาย 1 คนสวมหมวกแก๊ปสีขาวใส่แมสปิดบังใบหน้า สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงสีดำ มีกระเป๋าสะพายข้าง ทำทีเข้ามาขอดูทองก่อนจะชิงทรัพย์ทองคำหนัก 5 บาท
จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีผ่านทางบันไดเลื่อนลงไปด้านล่าง โดยระหว่างวิ่งหลบหนีคนร้ายได้ทำไฟแช็ค และแม็กกาซีนปืนหล่นไว้บริเวณทางขึ้น-ลง บันได้เลื่อน ชั้น 1 ก่อนที่คนร้ายได้วิ่งหลบหนีเอาไปเอา รถจยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเทาดำ ทะเบียน 6119 ที่จอดอยู่บริเวณร้าน โฮมโปร ด้านข้างห้างบิ๊กซี แล้วขี่หลบหนีไป
- สุดเศร้า! สาวโพสต์อาลัย ‘ลุงยูร’ จากเหตุเจ็ทสกีชนเรือหางยาว กลางแม่น้ำ
- ลือสะพัด! ‘ทักษิณ’ ลั่น ครม.อุ๊งอิ๊ง ต้องไม่มี ‘วงศ์สุวรรณ’
- วันชัย สอนศิริ เปิดดวง ‘นายกฯ อุ๊งอิ๊ง’ ชี้! มีวาสนาสูงส่ง เป็นนารีกู้แผ่นดิน
สอบสวนเบื้องต้นพนักงานร้านให้ข้อมูลว่า รอบแรก ทางผู้ก่อเหตุใส่หมวกและแมส ปิดบังใบหน้า ทำทีเดินเข้ามาจากนั้นดูสร้อยข้อมือทองคำ โดยชี้ไปที่ทองแล้วถามว่าเส้นนี้หนักเท่าไร่ พนักงานจึงตอบไปว่า หนัก 2 บาท แต่พนักงานไม่ได้หยิบให้ และบอกให้ผู้ก่อเหตุ “รอสักครู่น่ะค่ะ” เนื่องจากมีลูกค้าอีกคนอยู่ในร้าน จากนั้นคนร้ายได้เดินออกจากร้านไป ผ่านไปราว 5-10 นาที คนร้ายได้กลับมารอบที่ 2 และขอดูสร้อยทองเส้นใหญ่ จะซื้อให้แฟน จากนั้นคนร้ายเดินไปที่ด้านหน้าตู้แล้วบอกพนักงานว่า จะเอาเส้นนี้ ก่อนฉวยโอกาสวิ่งหลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บรอยนิ้วมือแฝงที่บริเวณจุดเกิดเหตุ บันทึกภาพ แม็กกาซีนปืนและไฟแช็คที่คนร้ายทำตกไว้ พร้อมขอภาพจากกล้องวงจรปิดจากทางห้างบิ๊กซี เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป.
พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า คนร้ายสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นและสวมหมวกแก๊ป พร้อมกับสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ก่อนเกิดเหตุ คนร้ายได้ทำทีมาเดินดูลาดเลาบริเวณหน้าร้านแล้วเดินกลับออกไป ลักษณะเหมือนว่าชั่งใจที่จะก่อเหตุหรือไม่ หลังจากนั้นเวลาผ่านไปประมาณ 5 น. คนร้ายได้กลับมาที่ร้านอีกครั้ง โดยได้ขอพนักงานร้านว่าดูสร้อยคอทองคำ ซึ่งคนร้ายได้ยืนบริเวณด้านข้างของร้าน ทางพนักงานร้านทองเห็นว่าผิดสังเกตและเกรงว่าหากได้สร้อยคอทองคำคนร้ายจะวิ่งหลบหนี จึงได้เรียกให้คนร้ายเข้ามาดูภายในร้าน จากนั้นคนร้ายก็ทำทีขอพนักงานร้านดูสร้อยคอทองคำจำนวน 2 เส้น โดยเส้นแรกเมื่อคนร้ายดูแล้วก็คืนกับพนักงาน แต่เส้นที่ 2 ปรากฏว่าในระหว่างที่คนร้ายกำลังดูสร้อยคออยู่นั้น พนักงานร้านเห็นว่า คนร้ายมีลักษณะพิรุธ คือ มือไม้สั่น รวมทั้งขณะนั้น คนร้ายได้สวมหมวกและหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า จึงกำลังจะบอกให้คนร้ายถอดหมวกและเปิดใบหน้า แต่ก็ไม่ทันการ คนร้ายก็คว้าสร้อยข้อมือทองคำ มูลค่า 5 บาท วิ่งออกไปจากร้านทันที โดยคนร้ายได้สะดุดทางต่างระดับจนทิ้งรองเท้าแตะเอาไว้ ก่อนจะวิ่งลงบันไดเลื่อนหนีไป
ทันใดนั้น พนักงานร้านทองที่ทำหน้าที่เลี่ยมพระอยู่หน้าร้าน ได้วิ่งตามคนร้ายเพื่อช่วยสกัดจับ แต่พอถึงบันไดเลื่อนชั้น 1 ปรากฏว่าคนร้ายได้คว้าอาวุธปืนหันมายิงพนักงานร้านถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกแรกกระสุนด้านและครั้งที่ 2 กระสุนลั่นลงพื้น ทำให้พนักงานร้านไม่วิ่งต่อเพื่อความปลอดภัย แล้วจากนั้นคนร้ายก็ได้วิ่งไปขึ้นมอเตอร์ไซค์หลบหนีไปทันที
หลังเกิดเหตุ ก็ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งพิสูจน์ทราบตัวบุคคล เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นเตรียมตั้งข้อหาเอาผิดคนร้ายจำนวน 4 ข้อหาได้แก่ ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะ , พยายามฆ่าผู้อื่น , ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ขณะนี้ทางฝ่ายสืบสวนสามารถพิสูจน์ทราบตัวคนร้ายผู้ต้องสงสัยได้แล้ว เป็นชายอายุช่วงประมาณ 17 ถึง 20 ปี พบมีที่พักอาศัยอยู่ในย่านห้วยขวางไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการสอบปากคำพยานแวดล้อมที่เกิดเหตุและญาติพี่น้อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยต่อไป โดยได้เบาะแสว่าหลังก่อเหตุ ผู้ต้องสงสัยได้ขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปทางแยกห้วยขวางตลอดแนวถนนรัชดาภิเษก ออกไปทางถนนวิภาวดีรังสิต จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าไปตามตัวเพื่อนำมาดำเนินคดี คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้