จากกรณีเหตุการณ์สลดกลางดึก ที่มีเรือเจ็ทสกีพุ่งชนกับเรือหางยาวของชาวบ้าน กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีคนจมน้ำสูญหายและมีผู้บาดเจ็บ ก่อนจะมีผู้เสียชีวิต 2 ราย 1 ในนั้นคือ ลุงยูร คนขับเรือหางยาว เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2567 เมื่อเวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา
บริเวณที่เกิดเหตุคือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างฝากฝั่งพระราม 3 กับ ฝากฝั่งพระประแดง หลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่ามีการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและนำเรือที่ประสบเหตุเข้ามาจอดที่ท่าน้ำ วัดบางกระเจ้านอก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
- สุดโหด! แม่วัย 30 ถูกยิง ดับอนาถข้างรถเก๋ง ต่อหน้าลูกน้อยวัย 2 ขวบ
- ญาติวีน! บริษัทมาเฟีย ไม่รับผิดชอบ หลัง น้องชายถูกไฟช็อต ขณะทำงาน
- หาม นทท. กว่า 30 คน ส่งรพ. หลังเหตุไฟไหม้ชิงช้าสวรรค์ เทศกาลดนตรี
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบจุดจมน้ำสูญหายห่างจากท่าน้ำราว 100 เมตร โดยในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บสองราย เป็นหญิงสาว อายุ 17 ปี และมารดาของหญิงคนดังกล่าว อายุ 41 ปี ผู้บาดเจ็บทั้งสองนั่งซ้อนท้ายมากับเรือเจ็ทสกีที่พุ่งชน พบว่าอาการบาดเจ็บฟกซ้ำตามแขนขาและปวดเจ็บตามร่างกาย
ล่าสุดทางคนใกล้ชิดผู้ตายได้ทำการออกมาโพสต์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ด้วยความสนิทสนมและชิดเชื้อกับผู้ตายทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะเทือนใจเป็นอย่างมาก โดยเธอเล่าว่า ลุงยูร (ผู้ตาย) ขับเรือช้ามาก ๆ แล้วปกติลุงจะคาดหัวกบที่ส่องไฟตลอด ทำไมคนขี่เจสถึงบอกว่ามองไม่เห็น แม่น้ำมันไม่ได้มืดขนาดนั้น แต่ด้วยเพราะความประมารหรืออย่างไรไม่อาจทราบ ทำให้เจ็ทสกีพุ่งชนเรือหางยาวที่ลุงยูรขับมา ทำให้มีคนเสียชีวิตถึง 2 คนในเหตุการณ์นี้ ทำให้คนดี ๆ ใกล้ตัวต้องจากไป
นอกจากนี้เธอยังเล่าว่า ‘กลางคืนไม่ค่อยมีใครอยากขับนะ หลัง 3 ทุ่มเรือก็หมดแล้ว มีแต่ลุงยูรนี่แหละ ที่อาสาขับรอรับคนเลิกงานหรือกลับบ้านดึก แล้วแกขับช้า ใจเย็น เรือใหญ่มาแกก็รอให้เรือไปก่อน ลุงยูรแกใจดีมากจริง ๆ‘