จากนั้น ในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ซึ่งเป็นท่าถนัดของวีรพล ออกมายกครั้งแรก 190 กก. ผ่านฉลุย ซึ่งก่อนจะยกครั้งที่ 2 ปรากฎว่า ฉือ จื้อหยง กลับยกพลาดทั้ง 3 ครั้ง ทำให้วีรพลเรียก 194 กก. ยกสำเร็จ ขึ้นมารั้งอันดับ 3 การันตีทองแดงไว้แล้ว ก่อนที่ครั้งสุดท้าย จะเรียกน้ำหนัก 198 กก. แล้วยกสำเร็จ ทุบสถิติเยาวชนโลกในท่านี้ พร้อมทำน้ำหนักรวม 346 กก. คว้าเหรียญเงินให้กับทัพนักกีฬาไทยได้สำเร็จ

ส่วนเหรียญทองเป็นของ ริคกี้ จูเนียสยาห์ จากอินโดนีเซีย ที่ทำน้ำหนักรวม 354 กก. โดยทุบสถิติโอลิมปิกเกมส์ในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก หลังยกได้ 199 กก. และเหรียญทองแดงเป็นของ โบซิดาห์ ดิมิตรอฟ อันดรีเยฟ จากบัลแกเรีย น้ำหนักรวม 344 กก

สำหรับประเทศไทย ในกีฬายกน้ำหนัก คว้าไปแล้ว 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ทั้งนี้ยังเหลือจอมพลังอีก 1 คน ดวงอักษร ใจดี แข่งขันรุ่น 81 กก.หญิง วันที่ 11 สิงหาคม นี้

ประวัติ เวฟ วีรพล

สำหรับ “เวฟ วีรพล วิชุมา” เป็น ชาว ต.กุดหวาย อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ คนจังหวัดเดียวกับ “ไก่” ปวีณา ทองสุก เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2024 เขาอายุ 19 ปี จะครบ 20 ปี วันที่ 10 ส.ค. นี้ โดยเป็นนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุด ในยกน้ำหนักรุ่น 73 กก.ชาย โอลิมปิก แต่เป็นหนึ่งในความหวังของทัพยกเหล็กไทย

ผลงานในอดีต

• 3 เหรียญทอง ยุวชนโลก 2564 ที่ซาอุดิอาระเบีย
• 2 ทอง 1 เงิน ยกน้ำหนักเยาวชนชิงแชมป์โลก 2565
• 3 เหรียญทอง ยกน้ำหนักยุวชนโลก 2565 ที่อุซเบกิสถาน
• 3 เหรียญทองแดง ชิงแชมป์โลก 2565 ที่โคลอมเบีย

นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน จาก ยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก ปี 2566 ที่ซาอุดีอาระเบียครั้งนั้น ทำสถิติเยาวชนโลก ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก สถิติ 195 กก. เหรียญเงิน เอเชียนเกมส์หางโจว หนนั้นทำสถิติเยาวชนโลก น้ำหนักรวม สถิติ 351 กิโลกรัม ท่าสแนทช์ได้ 156 กิโลกรัม เป็นสถิติที่ดีที่สุดของตัวเองในท่านี้ สำหรับ เหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2024 ทำลายสถิติเยาวชนโลก ท่าคลีนแอนด์เจิร์ค ของตัวเอง ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ 198 กก.

สำหรับเงินรางวัลที่ เวฟ วีรพล จะได้รับจากการคว้าเหรียญเงิน สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ระบุว่า มาจาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย 7.2 ล้านบาท (จ่ายเป็นเงินก้อนอัตราร้อยละ 50 ส่วนอีกร้อยละ 50 แบ่งจ่ายเป็นรายเดือนในระยะเวลา 4 ปี)

เงินเดือนจากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี เป็นเงิน 2.4 ล้านบาท และจาก บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) 500,000 บาท รวมเป็นเงิน 10.1 ล้านบาท