จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก ข่าวเกาะสมุย ได้ออกมาโพสต์ภาพป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ริมถนนสายรอบเกาะสมุย ในตำบลตลิ่งงาม อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ติดหราที่หน้าร้านวัสดุก่อสร้าง พร้อมกับข้อความว่า “ฝากพิเศษ ทำคนตาย ไม่รับผิดชอบ” พร้อม แฮชแท็กว่ามีได้ที่นี่ #โรงพยาบาล ณ.บนเกาะสมุย# พร้อมกับภาพ การลำเลียงหญิงสาวไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ จากเกาะสมุย ไปยังโรงพยาบาลในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ก็ทำให้มีชาวเน็ตหลายคนให้ความสนใจอย่างมาก และมีชาวเน็ตบางคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า เราก็เกือบตายเพราะคลอดลูกที่นี่ เมื่อ 12 ปีก่อน ให้เราคลอดเองไม่เคยตรวจไม่เคยดู, จริงค่ะเราก็คลอดที่นี่ พูดจาก็ไม่ดี, ปิดข่าวเงียบกริ้บเลยสมุยนี้ สุดยอดจริง เป็นต้น
ต่อมาวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าว ช่อง 3 ได้เดินทางไปที่ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างดังกล่าว และได้พูดคุยกับ นายธรรมรัตน์ อายุ 40 ปี เจ้าของร้าน โดยเจ้าของร้านได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ภรรยาตั้งท้อง และได้เข้าไปฝากท้องที่คลินิกแห่งหนึ่ง ในเกาะสมุย จนถึงวันที่ 19 เม.ย.67 กำหนดผ่าคลอด และ แฟนได้เสียชีวิตวันที่ผ่าคลอด โดยภรรยาตั้งท้องเป็นท้องที่ 2
หมอบอกสาเหตุที่เสียชีวิตว่า น้ำค่ำอุดตันในกระแสเลือด โดยเมื่อวันที่ 19 เม.ย. หมอนัดผ่าคลอดเวลา 13.00 น. แต่ให้เดินทางไปถึงโรงพยาบาย เวลา 09.00 เพื่อทำการตรวจสภาพร่างกาย และเตรียมความพร้อม ตอนเที่ยงก่อนเข้าห้องผ่า ตนก็ได้ถ่ายรูปกับแฟนเสร็จ จนถึงคิวผ่าตัดทำคลอดบ่ายโมง จนกระทั้งบ่าย 2 กว่า ๆ พยาบาลก็นำลูกชายออกมา ก่อนจะบอกว่าน้ำหนักได้ 3.3 กิโลกรัม ลูกชายมีสภาพสมบูรณ์ และ รอให้คุณแม่นอนพักฟื้นสัก 2 ชั่วโมง
ช่วงที่ผมนั่งรอภรรยา เห็น และเอะใจว่า ทำไมคุณหมอวิ่งเข้า วิ่งออกหลายคน และเวลาบ่าย 3โมงกว่า ๆ ผมจึงเดินไปถามพยาบาลว่า ทำไมแฟนยังไม่ออกมา ทีมแพทย์ก็ออกมาบอกว่าแฟนเกิดอาการวิกฤต หัวใจล้มเหลวฉับพลันเนื่องจากภาวะร่างกายอ่อนแอ ซึ่งตนก็ท้วงขึ้นว่า แต่แฟนของตนสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี
จากนั้นทางโรงพยาบาลที่ทำคลอด ในเกาะสมุย ได้ประสานงานไปที่หน่วยบินศูนย์นเรนทร์ทรอ่าวไทย นำเฮลิคอปเตอร์ ข้ามจากเกาะสมุย นำร่างภรรยาตนไปส่งยังโรงพยาบาลในจังหวัดสุราษฎร์ธานี “ตรงนี้ตนต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ทหารอากาศสถานีรายงานสมุย มา ณ.ตรงนี้ที่ได้อำนวยความสะดวก”
หนุ่มผู้สูญเสียภรรยา ได้กล่าวด้วยใบหน้าที่เศร้าเเละเสียใจ ว่า หลังจากภรรยาเสียชีวิต โรงพยาบาลให้นำศพกลับบ้านทันที รุ่งเช้าอีกวันตนได้เดินทางมาติดต่อขอดูผลการรักษาและเสียชีวิตของภรรยา และสอบถามเจ้าหน้าที่หลายเรื่องในประเด็นต่าง ๆ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะให้เงิน 400,000 บาท และนำศพกลับบ้านได้ พร้อมแจ้งว่าเป็นการช่วยเยียวยาจากการสูญเสียของแฟน
“ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าหากติดใจการเสียชีวิตสามารถส่งศพชันสูตร ได้ แต่ถ้าผลชันสูตรออกมาแล้ว จะไม่จ่ายเงินเยียวยาส่วนนี้ เป็นการพูดลักษณะ ข่มขู่ว่าอย่าให้เดินเรื่อง” หนุ่มใหญ่กล่าว
ทั้งนี้ทางรพ.ยังแจ้งว่าใบชันสูตรรอได้ไหมอาจต้องใช้เวลา 1 เดือน 2 เดือน หรือเป็นปี ทั้งนี้ในระยะเวลาย่างเข้า 3 เดือน ทางแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้แสดความรับผิดชอบอะไรเลย ปิดเรื่องเงียบอย่างเดียว ซึ่งตนก็จะดำเนินตามกฏหมายให้ถึงที่สุด