หมอรามาฯ ติดโควิด ทั้งที่ฉีดซิโนแวคครบ-ใส่หน้ากาก N95 เผยรับเชื้อมาจากคนที่ฉีดวัคซีนแล้วเช่นกัน วอนผู้บริหารประเทศหาวัคซีนดีๆ มาฉีดคนไทย

รศ.พญ.ประภาพร พิสิษฐ์กุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยว่า ติดเชื้อโควิด-19 แม้ว่าจะฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว ในฐานะแพทย์ระบบภูมิคุ้มกันจึงขอเล่าเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพของทุกคน ใจความระบุว่า

ในฐานะแพทย์ระบบภูมิคุ้มกันเลยได้ทำการตรวจหาภูมิคุ้มกัน Neutralizing antibody ของตัวเอง เพื่อจะได้เข้าใจระบบภูมิคุ้มกันของตัวเองต่อการตอบสนองต่อวัคซีน ดังนั้นหลังฉีดวัคซีน Sinovac ครบที่ 2 สัปดาห์ ตัวเองก็ได้ตรวจระดับ NAb ซึ่งก็สูงถึง 92.9% แต่พอติดตามไปหลังฉีดวัคซีนครบที่ 2 เดือน ค่า NAb ลดลงมาเหลือ 65.7% และในช่วงที่ค่า NAb 65.7% ก็เป็นช่วงที่ตรวจ COVID-19 detected ที่ Ct 18

โดยคาดว่าการติดเชื้อนี้ได้มาจากการ Contact positive case ในห้องแล็บ เย็น อากาศปิด นานประมาณครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง ในขณะที่ตัวเองใส่ N95 และก่อนหน้าที่จะเข้าไปใช้ห้องแล็บนี้มีคนที่มาใช้เครื่องมือที่มีอาการไอค่อนข้างมากอยู่ก่อน และจากการได้รับอาหารมาจากเคสที่บวกเหมือนกัน แล้วไปแยกนั่งกินกันคนละห้องกัน ข้อสำคัญคือเคสที่บวกด้วยกันก็ฉีด Sinovac ครบ 2 เข็มเรียบร้อย และเช็ค NAb อยู่ที่ 60.04 %

สิ่งเหล่านี้บอกอะไรเราบ้าง บอกว่า โควิดรอบนี้ติดง่ายมากๆ คนที่ฉีดวัคซีนครบทั้งสองคน ที่มีภูมิคุ้มกันขึ้นทั้งคู่ ก็สามารถติดเชื้อได้ หรือแพร่ให้กันได้ หรือในที่อากาศปิดเย็นที่เคยมีคนติดโควิดแพร่เชื้อไว้ก็ยังสามารถติดได้ ประสบการณ์ตรงเมื่อฉีด Sinovac ไปเพียง 2 เดือน ก็มีภูมิคุ้มกันที่ลดลง 30% ต่ำพอที่จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์ได้ ดังนั้น Sinovac ไม่กันติดเชื้อ ใครที่ฉีด Sinovac ไป 2 เดือนแล้ว ภูมิคุ้มกันคงเริ่มลงแล้ว แนะนำใส่ N95 ตรวจคนไข้ในห้องแอร์ Faceshield ด้วยก็จะดี 

Sinovac กันอาการรุนแรงได้ไหม เพราะดูจากค่า Ct ที่ 18 ก็แสดงว่าปริมาณเชื้อในตัวก็น่าจะเยอะพอควร อันนี้จะมาเล่าให้ฟังครั้งหน้าว่าอาการเราเป็นอย่างไร ถ้ารอดมาได้ การที่จะหยุดการระบาดก็จะต้องเกิดจากการมี Herd immunity โดยสามารถเกิดได้ 2 ทาง 1. จากวัคซีน ซึ่งก็ต้องใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพและฉีดให้ทั่วถึง หรือ 2. ให้ติดเชื้อกันให้หมด เป็น natural selection process ใครมีสุขภาพดีภูมิคุ้มกันดีก็อยู่รอด หรือ อ่อนแอก็พ่ายแพ้ไปเราจะเลือกจะอยู่กันแบบไหน

“สุดท้ายอยากฝากไปถึงผู้บริหารประเทศที่มีใจเป็นธรรมและนึกถึงประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์คนไทยด้วยกัน โดยไม่ควรจะคิดถึงเรื่องผลประโยชน์ใดๆ นอกเหนือจากการช่วยชีวิตคนไทยด้วยกันและช่วยให้บุคคลากรการแพทย์ปลอดภัย โดยให้จัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพดีๆ เข้ามาเถอะค่ะ มาให้พอ มาช้าก็ดีกว่าไม่มาเลย (เข้าใจได้ว่าไปต่อแถวช้าแล้วจะมาแซงคิวขอวัคซีนเขามาก่อน ไม่ใหญ่จริงทำไม่ได้หรอกค่ะ) แต่ถ้ามาช้าเกินไปเราอาจมี Herd immunity แบบติดเชื้อกันไปเองเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ควร Boost เข็มสามให้บุคคลากรทางการแพทย์เถอะค่ะ ขอ mRNA ที่มีประสิทธิภาพดีๆ หน่อยเพราะว่าถ้า 1 คนป่วยจาก Covid แล้ว ก็มีผลต่อผู้ป่วยโรคอื่นๆอีกหลายคนเลยค่ะ (ตัวเองคงยังไม่ต้องใช้เข็มสามไปอีกสักพักใหญ่ๆ) และการจะ Boost Sinovac เข็มสามเพื่อให้ภูมิคุ้มกันขึ้นไปก็ขอให้คิดหนักๆ เพราะก็คงจะ Boost ขึ้นได้ดีจริง แต่ภูมิคุ้มกันจะอยู่นานไหม (ดูจากผลเลือดของตัวเองที่ตรวจเจอว่าหลังเข็มสองก็ขึ้นไปดี 92% แล้ว แต่ก็ตกลงมาอย่างรวดเร็วเมื่อเวลาผ่านไป เพียงแค่ 2 เดือน) และข้อมูลที่ Boost เข็มสามแล้วภูมิคุ้มกันมันอยู่ได้นานเท่าไหร่ก็ยังไม่ทราบ

อย่างไรก็ตามอาจมีผู้โต้แย้งว่าเข็มแรกคนทั่วไปยังไม่ได้ฉีดเลย เราด้อยค่า Sinovac เกินไปไหม ก็ขอตอบเลยว่าเราให้ค่าตามจริง Sinovac อาจช่วยให้เราไม่เจ็บหนักไม่ตาย ถ้าไม่มีให้เลือกก็ฉีด Sinovac ค่ะ เราต้องไม่ตายก่อน แต่ก็ต้องยอมรับว่าสามารถไปแพร่เชื้อต่อให้กับคนอื่นได้อีกนะคะและการระบาดก็จะไม่หยุดยกเว้นทุกคนจะติดกันไปหมดซะก่อนโดยเฉพาะถ้าเป็นบุคคลากรทางการแพทย์ที่รับเชื้อก็สามารถไปแพร่เชื้อให้คนป่วยได้ค่ะ สุดท้ายจริงๆคือ Sorry for inconvenience สำหรับทุกคนทุกงานที่ต้องยกเลิกหรือเลื่อนและฝากงานนะคะ ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะขอให้ Stay Save”