เมื่อวันที่ 8 ก.ค. เวลาประมาณ 02.00 น. นายสุเมธ อายุ 29 ปี อาชีพไรเดอร์ กําลังวิ่งงานอยู่บริเวณ ถ.ฉลองกรุง เกิดโทรศัพท์มือถือหล่น จึงหยุดรถไปเก็บ แต่พบตํารวจ 2 นาย จาก สน.ฉลองกรุง เข้ามาขับรถประชิดและบอกให้จอด

แต่เนื่องจาก นายสุเมธ ไม่ได้สวมหมวกนิรภัย และลืมใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ไว้ที่บ้าน จึงกลัวถูกปรับ จึงเลี้ยวรถหนี ตํารวจทั้ง 2 นายจึงไล่ตามไปพร้อมตีด้วยกระบอง จน นายสุเมธ พลัดตกรถที่ ซ.พรทิพย์ ถ.คลองหลวงแพ่ง

ตํารวจจึงจับกุมและทําร้ายร่างกาย โดยเตะหน้าและเหยียบหน้า ก่อนค้นตัวและรถ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงปล่อยตัวไป แต่ นายสุเมธ รู้สึกโดนกระทําเกินกว่าเหตุ จึงไปแจ้งความที่ สน.จรเข้น้อย

• สิ้นแล้ว! “ญี่ปุ่น” เสือโคร่งชราแห่งบึงฉวาก จากไปด้วยวัย 17 ปี 2 เดือน
• โหดเหี้ยม! จับได้แล้ว สาวชาวเมียนมา ทิ้งศพทารกฝาแฝด ในถังขยะ
• ตร.จับกุมทหารหนุ่ม ฆ่าแฟนสาว อดีตแม่บ้านรัฐสภา ก่อนหนีไป จ.เชียงราย

เมื่อตํารวจทั้ง 2 นายมาเจรจา กลับขู่ว่าถ้าไม่ถอนคําแจ้งความจะแจ้งความกลับ พร้อมดําเนินคดี นายสุเมธ ในข้อหาขับรถหวาดเสียว ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่มีใบขับขี่ ทําให้ถูกปรับไป 1,200 บาท

นายสุเมธ จึงมาร้องทุกข์ขอค่าเยียวยารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ และค่าโทรศัพท์มือถือที่เสียหาย พร้อมขอความเป็นธรรมในการดําเนินคดีกับตํารวจทั้ง 2 นายที่ทําร้ายร่างกายโดยไม่เป็นธรรม

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่าจะประสาน สน.จรเข้น้อย ให้ดําเนินคดีกับตํารวจทั้ง 2 นายดังกล่าว และหาแนวทางเยียวยานายสุเมธต่อไป