เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ร.ต.ท.นราศักดิ์ นนทะบุตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจาก น.ส.เอ นามสมมุติ อายุ 45 ปี อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี แจ้งว่า ถูกหลอกซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยี่ห้อ “ซิโนฟาร์ม” เหลือจากที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้สั่งซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมนำหลักฐานการโอนเงิน 36,000 บาท เข้าธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายวีระศักดิ์ สุขสำแดง และหลักฐานพูดคุยกลุ่มไลน์ชื่อว่า “Vaccine Sinopharm” มามอบให้ตำรวจ
น.ส.เอ ผู้เสียหาย ให้การว่า ตนมีอาชีพขายประกันบริษัทหนึ่ง และได้ข่าวจากเพื่อนที่ กทม. ว่ามีวัคซีนยี่ห้อซิโนฟาร์มเหลืออยู่ในโควตาของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเหลือโควตาอยู่ประมาณ 6 คน จึงได้ขอจองไว้ เพื่อที่จะได้ฉีด เพราะว่าการทำงานพบปะผู้คนจำนวนมากทำให้มีการเสี่ยง ตนจึงได้จองโควตาของตัวเองไปหนึ่งโควตา เสียค่าจองวัคซีน 1,800 บาท ตนเลยติดต่อกับเพื่อนที่กรุงเทพฯ และโอนผ่านเพื่อน โดยเพื่อนก็ได้รวบรวมเงินโควตารวม 6 คน โอนต่อไปให้กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง แล้วโอนต่อไปให้กับคนที่มาอ้างตัวเป็นหมอ เข้าบัญชีนายวีระศักดิ์ และยังจองให้ลูกค้าอีก 20 คน 40 โดส ทำให้ตนได้เข้าไปร่วมในกลุ่มไลน์ “Vaccine Sinopharm”
น.ส.เอ ให้การต่อว่า ซึ่งในกลุ่มไลน์ “Vaccine Sinopharm” ก็จะมีสมาชิกอ้างว่าเป็นหมอจริงๆ และได้สร้างความเชื่อมั่นต่างๆ ให้กับคนที่อยู่ในกลุ่มไลน์ เพื่อให้มีความเชื่อถือ และมั่นใจ โดยมีลิงค์ให้กดเข้าไปในเว็บไซต์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และก็มีขั้นตอนการฉีดวัคซีน แต่อ้างว่าระบบเกี่ยวกับไอทีขัดข้องกำลังแก้ไข ซึ่งทำให้ตนมีความเชื่อถือว่าเป็นหมอจริง และก็ให้เข้าไปดูไลน์อีกกลุ่มที่ชื่อว่า “IT ทางเลือกโรงพยาบาล” มีสมาชิกอยู่ประมาณ 1,300 คน ทำให้ตนรู้ถึงเกี่ยวกับระบบที่ทำงานกับโรงพยาบาลรัฐบาล และโรงพยาบาลเอกชนกำลังมีปัญหาอยู่จริง ดังนั้นวัคซีนที่ตนจองมันจะถูกเลื่อนจากที่ต้องฉีดให้คนที่อยู่กรุงเทพในวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้พวกตนต้องถูกเลื่อนมาฉีดในช่วงบ่ายวันที่ 28 มิถุนายน
น.ส.เอ บอกอีกว่า ตนมีความสงสัยการถูกเลื่อนฉีดวัคซีนหลายๆ รอบจึงได้สืบว่าเป็นหมอจริงหรือปลอม พวกตนจึงได้โทรศัพท์ไปหาเลขาหน้าห้องของหมอ และได้คำตอบว่าหมอไม่มีนโยบายให้ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม มีแต่ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จึงได้คำแนะนำจากหมอว่าให้พวกตนมาแจ้งความได้เลย และก็ยังพากันสืบหาต่อ ซึ่งพวกที่จะได้ฉีดวัคซีนในวันที่ 28 มิถุนายน ได้เดินทางไปเช็คอินในช่วงเช้า เพื่อที่จะเข้าไปดูว่าจะถูกโกหกอีกหรือไม่ พบว่ารายชื่อไม่มี และระบบมีปัญหา ให้ติดต่อไปหาหมอเลย จึงได้ติดต่อไป ได้รับคำตอบว่าโรงพยาบาลไม่รู้จักหมอคนนี้
น.ส.เอ ให้การต่อไปว่า พวกตนติดต่อไปที่หมอที่อยู่ในกลุ่ม แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และก็มีการออกจากกลุ่มไลน์ ทำให้รู้ว่าพวกตนโดนหลอก ซึ่งไม่น่ามาหลอกในภาวะวิกฤตกับคนที่มีความกลัวการระบาดของโควิด ทำให้หาวิธีที่จะได้วัคซีนมาฉีดให้เร็วที่สุด
น.ส.เอ อบอกอีกว่า อยากให้เรื่องเป็นข่าว เพื่อที่จะได้เตือนให้ประชาชนที่อาจจะถูกหลอกเชื่อเหมือนกับในกลุ่มของพวกตน และอาจจะต้องสูญเงินไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนได้หลงเชื่อจองเข้าไปในนามของตัวเองอีก 20 คน รวมความเสียหายของตน 36,000 บาท ซึ่งได้โอนเข้าไปในบัญชีชื่อนายวีระศักดิ์ สุขสำแดง โดยชื่อบัญชีนี้ก็มีผู้เสียหายโอนเงินเข้าไปเหมือนกัน โดยตอนนี้กลุ่มผู้เสียได้ไปติดตามจนรู้ว่าอยู่นายวีระศักดิ์อยู่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดนตำรวจควบคุมตัวไว้ที่ สภ.แก่งคอยแล้ว