ข่าวช่อง 3 รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2567  มีหญิงสาวอายุ 38 ปี เข้าร้องเรียนกับเจ้าของเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า โดนหลอกเข้าลัทธิถวายตัว ให้เธอและแฟนหนุ่ม มีเซ็กซ์กับพระ และเซ็กซ์หมู่กับลูกศิษย์ อ้างว่าเพื่อบรรลุธรรมขั้นสูงสุด

เรื่องราวนี้เกิดจากหญิงสาวและสามี ได้เดินทางไปที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน  จ.เพชรบูรณ์ เมื่อไปถึงก็ได้เจอพระชื่อดังรูปหนึ่ง ใช้กลอุบายทักกับเธอว่า เธอมีดวงผูกชะตากับพระรูปนี้ เคยเป็นพ่อลูกกันมาก่อน โดยอ้างว่า ครอบครัวของเธอกำลังถูกทำของใส่ และจะทำให้เธอเสียชีวิตได้ ทางพระจึงเสนอทำพิธีถอนของให้ 

ในตอนแรกพิธีถอนของเป็นไปตามปกติ ไม่ได้มีการทำพิธีเชิงเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด ซึ่งหลังทำพิธีแล้วเธอเองก็รู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นมาจริง ๆ จึงนับถือและศรัทธาพระรูปนี้อย่างมาก 

ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมานั้น มีบางครั้งที่เธอเองรู้สึกสงสัยในหลักธรรมคำสอนของพระรูปนี้ เนื่องจากคำสอนส่วนใหญ่มักเน้นไปเรื่อง “กาม” โดยอ้างว่าร่างกายของเรานั้นเป็นสิ่งที่มลายดับสูญไปได้ จงละอัตตาเพื่อบรรลุธรรม และหลุดพ้นจากทุกข์ ร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา

ไม่เพียงเท่านั้น พระองค์นี้ยังมีพฤติกรรมแชร์ภาพลามกอนาจารลงแชตกลุ่ม โดยจะเป็น ภาพเครื่องรางของขลังคล้ายอวัยวะเพศ ภาพถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว ภาพอวัยวะเพศของพระเองอีกด้วย หรือแม้กระทั่งบีบบังคับให้ผู้เสียหายส่งอวัยวะเพศตัวเองมาในกลุ่มอีกด้วย 

นอกจากนี้ยังมีการใช้คำพูดสองแง่สองงาม เช่น “พลังสี่เยียวยาทุกสิ่ง” “สองทุ่มครึ่งสี้กันที่ห้องพิศวง” เป็นต้น  

เธอได้เสริมว่าในกลุ่มนี้ยังมีลูกศิษย์ที่เป็นตำรวจอยู่ด้วย โดยลูกศิษย์คนนี้ได้มีการส่งภาพอวัยวะเพศด้วยเช่นกัน

ซึ่งเธอเองก็ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจ เกี่ยวกับพฤติกรรมของพระองค์นี้ โดยตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่สำนักสงฆ์แห่งนี้ มักให้คำตอบในลักษณะการบังคับให้เชื่อ โดยมักกล่าวว่า อย่าได้สงสัยหรือตั้งคำถามใด ๆ เพราะมันจะเป็นบาป และจะทำให้ไม่สามารถหลุดพ้นจากทุกข์ได้ เธอจึงจำยอมปฏิบัติตามต่อไป 

ต่อมาในช่วงปลายปี 2564 พระสงฆ์รูปนี้ได้เลื่อนขั้นให้เธอและแฟนหนุ่ม เป็นระดับธรรมมะขั้นสูงสุด เนื่องจากเห็นว่าทั้งสองอยู่กับสำนักสงฆ์ยาวนานกว่า 10 ปี ประกอบกับพระสงฆ์รูปนี้เริ่มมีอาการป่วย และอ้างว่า ตอนนี้ใกล้มรณภาพแล้ว เพราะใช้พลังงานช่วยเหลือให้คนหลุดพ้นทุกข์เป็นจำนวนมาก 

ด้วยเหตุผลดังกล่าวพระรูปนี้จึงได้มาสอบถามเธอกับแฟนหนุ่มถึงความสมัครใจที่จะเข้าสู่การปฏิบัติพิธีกรรมในขั้นสูงหรือไม่ พร้อมพูดจาหว่านล้อมว่า พิธีกรรมดังกล่าวคือ ‘การถวายตัว’ แก่พระ เพื่อเป็นการถวายพลังงานให้ท่านมีชีวิตรอดต่อไปได้ และจะช่วยให้เป็นการบรรลุธรรมขั้นสูงสุด หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง

ซึ่งหญิงสาวกับแฟนเห็นว่า พระรูปนี้เคยช่วยเหลือเธอมาหลายครั้งแล้ว จึงอยากตอบแทนท่านบ้าง 

สำหรับพิธีถวายตัว พระองค์นี้บังคับให้ทั้งเธอและแฟนหนุ่ม มีเพศสัมพันธ์กับพระ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการให้ทั้งสองจุดธูปสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าจะเคารพศรัทธา ไม่คิดทรยศ มิเช่นนั้นจะขอให้มีอันเป็นไป ทำให้ทั้งสองเชื่อในเรื่องนี้อย่างมาก

ในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ พระบังคับให้คู่ร่วมเพศปิดตา และให้ลูกศิษย์ถ่ายคลิปวิดีโอและภาพ ขณะมีเพศสัมพันธ์ โดยอ้างว่าคลิป และภาพเหล่านี้ จะนำไปถวายแด่เทพเจ้าในลัทธิวัชรยานเพื่อเป็นการบูชา แต่ในความจริงแล้วพฤติกรรมนี้ไม่ต่างอะไรกับเซ็กซ์หมู่เลย

เมื่อทำพิธีกรรมนี้เสร็จสิ้นลง ปรากฏว่า พระรูปนี้อ้างว่ามีร่างกายที่แข็งแรงขึ้น ทำให้ตอนนั้นเธอเริ่มเชื่อ และศรัทธายิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามพระองค์นี้ยังให้เธอและแฟนหนุ่ม ทำพิธีลักษณะแบบนี้อย่างต่อเนื่อง จนลามมาถึงให้ทั้งคู่มีเพศสัมพันธ์หมู่กับบรรดาลูกศิษย์ ครั้งหนึ่งสูงถึง 4-5 ราย โดยอ้างว่า การมีเพศสัมพันธ์หมู่จะเป็นการครบองค์ประกอบสำคัญของการบรรลุธรรมขั้นสูง  

ทั้งคู่ทรมานจากความเชื่อผิด ๆ นี้มานานหลายปี จนกระทั่งในปี 2565 ได้มานั่งพูดคุยกัน และเริ่มรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนาอย่างแท้จริง เป็นเพียงแค่การล่อลวงให้มีเพศสัมพันธ์เท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจไม่ไปยุ่งกับสำนักสงฆ์แห่งนี้อีก ถึงแม้ว่าพระจะเคยวิดีโอมาชักชวนให้ทั้งคู่กลับไปก็ตาม

หลังจากนั้นเธอและแฟนหนุ่มต้องเข้าพบพบจิตแพทย์ เพื่อบำบัดสุขภาพจิตใจของตนเอง เป็นเวลากว่า 2 ปี  ปัจจุบันทั้งคู่จิตใจเริ่มดีขึ้นแล้ว จึงตัดสินใจมาร้องเรียนกับเพจดัง ถึงแม้จะกลัวว่าจะถูกนำรูปมาแบล็คเมลล์แต่ก็ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ เพื่อที่จะได้เป็นอุทาหรณ์ให้แก่คนในสังคม  

อย่างไรก็ตามคู่รักคู่นี้ไม่ใช่คู่รักที่ตกเป็นเหยื่อของลัทธินี้ โดยข่าวช่อง 3 มีรายงานว่า มีผู้เสียหายอีกราย ซึ่งเป็นเพื่อนชายของผู้เสียหาย 2 รายข้างต้น ถูกหลอกให้มีเพศสัมพันธ์กับพระองค์นี้ด้วยเช่นกัน

ล่าสุด เฟซบุ๊กของสำนักสงฆ์แห่งนี้ ได้โพสต์ว่าพระรูปนี้ได้ลาสิกขาแล้ว โดยข้อความระบุว่า “ขอแจ้งข่าวให้ทราบว่า ในขณะนี้ทางสำนักสงฆ์ ขอยุติการเป็นที่พักสงฆ์นับจากนี้เป็นต้นไป และทางท่านพระอาจารย์ได้ลาสิกขาต่อหน้าพระเถระ เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่คณะสงฆ์ และไม่ให้เกิดความวุ่นวายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงแจ้งมายังคณะสานุศิษย์และผู้ศรัทธาทั้งหลายให้ทราบโดยทั่วกัน #เค้าว่าเราไม่ดีก็สึกเนาะ ต่อจากนี้ ที่นี้คือสำนักบารมีพุทโธรักษา และจะดำเนินงานสานฝันตามรอยคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่อไป  ขอขอบคุณ คณะศรัทธาสานุศิษย์ทุกท่านที่ได้ร่วมกันสานฝันมาตลอดครับ”