วันที่ 9 มิ.ย. 2567 ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ วอนขอให้มาช่วยเหลือเดินเรื่องให้ เนื่องจากไม่มีใครมาช่วยได้ ซ้ำยังเหมือนจะโดนขู่ ไม่ให้เอาผิดกับคนบ้านเดียวกัน หลังโดนเพื่อนบ้านมาข่มขืนลูกสาววัย 11 ปี
ด้านนางสาวนุ้ย อายุ 47 ปี ผู้ร้องทุกข์ ซิ่งเป็นแม่เด็กวัย 11 ที่ถูกข่มขื่น เผยว่า ลูกสาวมาบอกกับตนว่าเจ็บอวัยวะเพศ เมื่อช่วงวันที่ 12 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา พอถามลูกสาวว่า ถูกใครกระทำลูกสาวบอกว่าไม่โดนอะไร ตนจึงไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าน่าเป็นเพราะอย่างอื่น
ต่อมาวันที่ 19 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ช่วงนั้นหมู่บ้านมีงานบุญ ได้มีภรรยาของนายไร ซึ่งมีบ้านติดกันกับตน อดีตสมาชิก อบต.ในพื้นที่ โวยวายอยู่กองฟางหลังบ้านนายไร กำลังดุด่าลูกสาวของตนว่า “เธอทำแบบนี้ได้อย่างไร ไม่สงสารป้าเหรอ” เนื่องจากภรรยานายไร เห็น สามีกำลังจะพยายามข่มขืนลูกสาวของตน อยู่ที่โรงเก็บฟางหลังบ้านนายไร
เรื่องทั้งหมดถูกเปิดเผย ลูกสาวเล่าว่า ถูกข่มขืนเมื่อวันที่ 11 และ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา 2 ครั้ง แต่ไม่กล้าบอกแม่ เพราะนายไรขู่จะฆ่าหากไปบอกให้ใครรู้ พอทราบเรื่องตนก็ได้รีบไปแจ้งความที่ สภ.หนองกี่ เพื่อเอาผิดนายไร ด้านตำรวจให้ไปตรวจสุขภาพ แต่กลับไม่พบคราบอสุจิเพราะเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2567 นายไรทำการข่มขื่นไม่สำเร็จ
ภายหลังญาตินายไรได้มีการมาเจรจาบอกให้ยอมความหลายครั้ง พร้อมยื่นข้อเสนอจะให้เงิน 10,000 บาท เพราะมองว่าตนกับลูกจน แต่ตนไม่ยอมตกลง พอไปเร่งคดีกับทางเจ้าหน้าที่ก็ได้รับคำพูดกลับมาเพียงแค่ว่าลงเวรแล้ว ให้ไกล่เกลี่ยกัน ด้านญาตินายไรได้เข้ามายื่นข้อเสนออีกครั้งด้วยเงิน 50,000 บาทพร้อมบอกว่า “จะให้เงินสด ๆ นะ”
แม่ของผู้เสียหาย กล่าวว่า จึงอยากจะเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มาช่วยเหลือครอบครัวยากจนอย่างตน ตอนนี้สงสารลูกเพราะหลังจากวันที่ 19 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมาเป็นต้นมา ชาวบ้านในหมู่บ้านรวมถึงเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนลูกสาวรู้เรื่องทั้งหมด
อีกทั้งยังรู้สึกน้อยใจมากที่ตำรวจใช้คำว่า “ออกเวรแล้ว” ทั้งที่มาตามนัดเหมือนจงใจกลั่นแกล้ง ที่ผ่านมาเคยเหมารถผู้ใหญ่บ้านมาพบตำรวจครั้งละ 600 บาท แต่ครั้งนี้ไม่มีเงินจ้างจึงขับรถจักรยานยนต์มากับลูกตามลำพัง ซ้ำร้าย ลูกสาวยังโดนเพื่อนบูลลี่ ประจำว่า “โดนไหม” จนไม่อยากจะไปโรงเรียน ยิ่งกว่านั้นลูกสาวจะผวาทุกครั้งเมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ของนายไรที่ข่มขืนเพราะกลัว หลายครั้งต้องพาลูกสาวไปนอนบ้านญาติต่างหมู่บ้าน เพื่อบรรเทาความรู้สึกลูกสาว