หลังจากที่นักร้องชื่อดัง หนุ่ม กะลา ได้เข้าพบ ทนายเดชา และตั้งโต๊ะแถลงยื่นฟ้องภรรยา จูน เพ็ญชุลี ยักยอกทรัพย์ 66 ล้าน ยันไม่ได้ต้องการเงินคืน แต่ขอให้ปิดหนี้ให้ และวอนให้ จูน ชี้แจงรายละเอียดเรื่องการเงิน
โดยล่าสุด จูน ภรรยา หนุ่ม กะลา ได้ออกมาโต้กลับ ชี้แจงรายละเอียดทันทีว่าเงินที่ได้มานั้นเอามาใช้จ่ายอะไรบ้าง ถึงรายจ่ายต่อเดือนประมาณ 700,000 ถามกลับแบบนี้หรือ คือ ยักยอก
“ขอใช้พื้นที่เล็กๆตรงนี้ชี้แจงรายละเอียดเบื้องต้นนะคะ
เราเป็นคนรับเงินมาก็เอามาจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น
ค่าใช้จ่ายในบ้าน
ค่าผ่อนบ้าน 69,800
ค่าคอนโด 15,500
เงินเดือนพ่อแม่ 52500
เงินเดือนสามี 100,000
เงินเดือนคนขับ 15,000
ค่าผ่อนรถBenz 38,880
ค่าผ่อนรถAlphard 45,000
ค่าผ่อนBenz 23,500
Total fix cost ต่อเดือน 360,180
ค่าใช้จ่ายเรื่องงาน
ค่าStage
ค่าLighting
ค่าช่างภาพ
ค่าBroker
เงินเดือนผู้จัดการ
เงินเดือนคนตัดต่อ
ค่าเช่าห้องเก็บเครื่องดนตรี
ค่าน้ำมันคนขับรถตู้อีก2คัน
รวมแล้วดือนละ+-ประมาณ 300,000
ยังไม่รวมถึงค่าน้ำค่าไฟค่า ค่าเทอมลูก ค่ากินอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าประกันชีวิต ค่าประกันรถ ค่าไปเที่ยวต่างประเทศ ไหนจะค่าบัตรเครดิตอีก
ตามที่สามีพูดเลยค่ะว่ารายจ่ายต่อเดือนประมาณ700,000
2ยอดนี้บวกกัน ลองคูณต่อปีเอาก็แล้วกันนะคะว่ารายจ่ายจะเท่าไหร่ มีเอกสารหลักฐานตรวจสอบได้ทุกยอดค่ะ
ขอฝากไปถามก็แล้วกันนะคะว่าจะเอาเงินมาจากไหนถ้าไม่ใช่จากบริษัทที่เปิดร่วมกันกับสามี Statementไม่โกหกตามที่สามีพูดเลยค่ะ statementบริษัทมี Statementส่วนตัวก็มีค่ะชี้แจงได้ว่าโอนออกไปจ่ายอะไรบ้าง และในส่วนเงินเก็บก็ยังอยู่ค่ะ ไว้เราไปดูรายละเอียดกันที่ศาลนะคะ
คนเป็นเมียในฐานะคนทำบัญชี ดูแลบริษัท สั่งจ่ายไปเพื่อประโยชน์ของบริษัทและครอบครัว แบบนี้หรือ คือ ยักยอก ก็ทำแบบนี้มาตลอดนะคะเป็นเวลาหลายปี แล้วทำไมถึงมาฟ้องตอนนี้คะ จริงๆเราก็อธิบายไปหลายรอบแล้วค่ะแต่สามีอาจจะไม่เข้าใจ เดี๋ยวเตรียมหลักฐานเสร็จแล้วให้ศาลท่านช่วยดูก็แล้วกันนะคะว่าแบบนี้เรียกยักยอกมั๊ย”
ซึ่งใต้โพสต์นี้ หนุ่ม กะลา ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ด้วยว่า “ปีนึงได้20ล้าน ค่าใช่จ่าย500000×12เดือน =6ล้านที่เหลือละจูนนนนนนนนน”
และทางด้าน จูน ก็ได้ตอบกลับว่า “อยากดูรายได้ไปดูงบการเงินได้ว่ามีรายได้ถึงเดือนละ20ล้านมั๊ย ไปโหลดในระบบกรมพัฒน์ได้เลยค่ะจะได้ไม่หาว่าฉันโกหก” และ “แล้วรายได้ต่อปีสูงสุดแค่17ล้านค่ะ ไม่เคยถึง20ล้าน ไปโหลดดูในระบบกรมพัฒน์ได้เลย”