“อนุทิน” รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ในฐานะ ผู้ทำประโยชน์ต่อวงการแพทย์และสาธารณสุขเป็นที่ประจักษ์
(23 พ.ค.67) ที่หอประชุมกิติยาคาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ มอบปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันพระบรมราชชนก (สบช.) ประจำปีการศึกษา 2566 โดยในพิธีได้มีการพระราชทานปริญญาสาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประจำปี 2566 แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้ทำประโยชน์ต่อวงการแพทย์ และสาธารณสุขเป็นที่ประจักษ์
สำหรับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก สบช.โดยปกติแล้วเป็นปริญญาที่ให้กับผู้นำ หรือผู้บริหารสูงสุดในประเทศ พร้อมกับเป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมือง ประเทศชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์
โดย ศ.พิเศษ นพ.วิชัย เทียนถาวร อธิการบดีสถาบันพระบรมราชชนก (สบช.) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ถึงเหตุผล ที่ นายอนุทิน ได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ว่า เพราะเมื่อครั้ง นายอนุทิน ขณะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทำโครงการ สบช.สัญจร เดินทางไปแนะแนวนักเรียนทั่วประเทศกว่า 2,360 แห่ง สร้างความเสมอภาคให้กับนักเรียนทุกคนในการเข้าศึกษาในสถาบันฯ ในสาขาพยาบาลศาสตร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทุกโรงเรียนในระดับอำเภอ ได้เข้าเรียนในสถาบันฯเพื่อให้เกิดการกระจายบุคลากรไปทั่วประเทศ พร้อมทั้งให้โอกาสเด็กในถิ่นทุรกันดารในชนบทได้ศึกษาในหลักสูตรการพยาบาล
นอกจากนี้ นายอนุทิน ได้ส่งเสริมให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เข้าเรียนในหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล ขณะนี้เรียนจบไปแล้วกว่า 2,000 คน เพื่อให้โครงการ 3 หมอสำเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์ ทั้งยังมีดำริว่า กรณี อสม.ที่จบในหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล และมีผลการเรียนดี มีความมุ่งมั่นตั้งใจดี ก็ควรได้รับทุนเรียนต่อในระดับชั้นปริญญาตรี เช่น สาขาพยาบาลศาสตร์ หรือสาขานักการสาธารณสุขศาสตร์ ทั้งนี้ นายอนุทิน ยังเป็นนักการเมืองคนแรกได้เข้ารับปริญญาสาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันพระบรมราชชนก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลงานของ นายอนุทิน ที่ได้รับปริญญาบัตรสาธารณสุขศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ของ สบช. โดยภารกิจที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชา/ปริญญา คือ
1.นโยบายเกี่ยวข้องกับงานด้านสาธารณสุข ที่ทำให้ระบบปฐมภูมิมีความเข้มแข็ง ให้คนไทยทุกคนมีหมอ 3 คน คอยดูแลประจำ คือ อสม. หมออนามัย และหมอครอบครัว เพราะมีการส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชน ในการใช้พืชสมุนไพรกัญชากัญชง ผลักดันพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ และการสาธารณสุข ให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างมีคุณภาพลดความเหลื่อมล้ำ เป็นต้น
2.ส่วนผลงานที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ เช่น บันทึกความร่วมมือกับทางสถาบันฯ เพื่อเป็นเครือข่ายสร้างความร่วมมือในการผลิตบุคลากร ตามความต้องการของกระทรวงสาธารณสุข, โครงการ สบช.โมเดล สร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดโรคแทรกซ้อน, พร้อมทั้งให้โอกาส อสม.กว่า 3,000 คน อบรมหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล, ผู้ริเริ่มโครงการอบรม “พระบริบาลภิกษุไข้” ประจำ 1 วัด 1 รูป เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีผลงานโดดเด่นคือ “ภารกิจหัวใจติดปีก” ซึ่งเป็นปฐมบทของภารกิจเหนือการเมือง เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง นายอนุทิน และ นพ.พัชร อ่องจิต อาจารย์ศัลยแพทย์ หัวหน้าสาขาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย