พยาบาลเล่าเอง ทำไมก่อนตายมนุษย์มักหายใจเสียง “ครืดคราด” อย่างน่ากลัว เจ้าตัวรู้สึกเจ็บปวดไหม ในช่วงนั้นมีเวลาชีวิตเหลืออีกกี่ชั่วโมง?
“จูลี แมคแฟดเดน” พยาบาลในลอสแอนเจลิส ซึ่งรับหน้าที่ดูแลผู้ป่วยระยะสุด กล่าวว่า เสียงหายใจครืดคราดก่อนที่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตนั้น นำความทรงจำที่เจ็บปวดมาสู่ญาติหลายคนที่เข้าใจผิดว่าสมาชิกในครอบครัวของพวกเขากำลังจะตายด้วยความเจ็บปวด แต่จริงๆ แล้วเสียงดังกล่าวเป็นเรื่องปกติและพวกเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดใดๆ ในขณะนั้น โดยชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้มักเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเกิดจากอากาศที่ไหลผ่านของเหลวที่สะสมอยู่ในปากระหว่างการหายใจ
“อาการหายใจไม่ออกเป็นเรื่องปกติ และเกิดขึ้นตามธรรมชาติในช่วงสุดท้ายของชีวิต แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้ยิน อาจถือเป็นเสียงที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยได้ยินมา หลายคนบอกว่ามันเป็นความบอบช้ำทางจิตใจเมื่อพวกเขาได้ยิน และฉันคิดว่าถ้าเรารู้เรื่องนี้ล่วงหน้า มันอาจช่วยบรรเทาความกลัวได้บ้าง”
- ทำไมคนถึงหลั่งน้ำตาตอนตาย ในที่สุดวิทยาศาสตร์ก็มีคำตอบ เกิดอะไรขึ้นช่วงนาทีสุดท้าย?!
- ไขปริศนาลึกลับ “ตายตาไม่หลับ” การแพทย์หาคำตอบได้แล้ว เป็นเพราะยัง “มีห่วง” จริงหรือ?
แมคแฟดเดนอธิบายว่า โดยปกติร่างกายมนุษย์ยังคงผลิตน้ำในปากอยู่ตลอดเวลา และสมองจะส่งสัญญาณการกลืนไปที่คอเพื่อล้างน้ำมูกโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ในผู้ที่กำลังจะเสียชีวิตระบบนี้จะพังลงและน้ำลายจะไม่ถูกกลืนอีกต่อไป ทำให้เกิดการสะสมในปาก จากนั้นเมื่อผู้ป่วยหายใจเข้าจะมีเสียงแปลกๆ ออกมา เช่นเสียงฮืดๆ หรือเสียงครืดคราด เมื่อมีอากาศเข้าออกผ่านทางการหายใจ ทั้งนี้ เสียงดังกล่าวสามารถลดลงได้โดยใช้ยา หรือโดยพลิกผู้ป่วยตะแคงเพื่อให้ของเหลวที่สะสมอยู่ไหลออกมา โดยทั่วไปจะหลีกเลี่ยงอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับดูด เพราะอาจทำให้ร่างกายแย่ลง
การศึกษาพบว่าการหายใจดังเสียงเป็นสัญญาณของการเสียชีวิตที่ใกล้จะเกิดขึ้น โดยเฉลี่ยแล้วผู้ป่วยสามารถมีชีวิตอยู่ได้ 25 ชั่วโมง และประมาณ 40% ของผู้ป่วยจะประสบกับสถานการณ์นี้ในช่วงวิกฤติของชีวิต นอกจากนี้ แพทย์บางคนเสริมว่านอกจากเสียงหายใจที่ผิดปกติแล้ว การชีพจรก็เริ่มอ่อนแอ แขนขาเริ่มเย็น มีสีม่วงคล้ำ และมีคราบจุลินทรีย์ปรากฏขึ้น ดวงตาและปากอาจยังคงเปิดอยู่ไม่กี่นาทีก่อนเสียชีวิต และการหายใจอาจจะเร่งถี่มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน