ศพฮีโร่แทงก์ระเบิดมาบตาพุด กลับถึงเชียงราย สรุปแล้ว ประกันสังคมชดเชยเท่าไหร่

Home » ศพฮีโร่แทงก์ระเบิดมาบตาพุด กลับถึงเชียงราย สรุปแล้ว ประกันสังคมชดเชยเท่าไหร่
ศพฮีโร่แทงก์ระเบิดมาบตาพุด กลับถึงเชียงราย สรุปแล้ว ประกันสังคมชดเชยเท่าไหร่

ศพเหยื่อแทงก์ระเบิดมาบตาพุด กลับถึงเชียงรายแล้ว เผยตัวเลขเงินชดเชยจากประกันสังคม ครอบครัวได้รับตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรดาญาติของ นายนพพร เรือนมา อายุ 35 ปี พนักงานบริษัท มาบตาพุดแทงค์ เทอร์มินอล จำกัด ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ได้นำร่างอันไร้วิญญาณมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดปูแกง ม.1 ต.แม่เย็น อ.พาน จ.เชียงราย หลังทางญาติได้เดินทางไปรับศพจากจังหวัดระยอง ตามกำหนดเดิมที่จะถึงในช่วงคืนวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ทางตำรวจจังหวัดระยองได้เรียกนำศพกลับเพื่อชันสูตรเพิ่มเติม ทำให้ต้องเลื่อนการเดินทาง และมาถึงยังภูมิลำเนาบ้านเกิดในช่วงคืนที่ผ่านมา

โดยในงานตลอดทั้งวันยังเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ยมีญาติพี่น้องและประชาชนที่รู้จักมักคุ้นกับครอบครัวของนายนพพรพากันเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

ขณะที่วันเดียวกันนี้ทางเรืออากาศเอกหญิง ศุภพร อยู่วัฒนา ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม และนายพรชัย พินิจรัตนอนันต์ ประกันสังคมจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางไปที่วัดปูแกง เพื่อมอบเงินทดแทนและสิทธิประโยชน์จากสำนักงานประกันสังคมให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยแบ่งเป็นเงินทดแทน 1,680,000 บาท ค่าทำศพ 50,000 บาท และบำเหน็จชราภาพ 110,039.50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,840,039.50 บาท (หนึ่งล้านแปดแสนสี่หมื่นสามสิบเก้าบาทห้าสิบสตางค์)

อีกทั้งยังเป็นตัวแทนของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ส่งมอบพวงหรีดไว้อาลัยและแสดงความห่วงใยต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยมีนางปั๋น เรือนมา อายุ 67 ปี มารดา และ น.ส.โสรยา เรือนมา อายุ 35 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เป็นผู้รับมอบ นอกจากนี้ยังมีนายสมชาย จันทรประเทือง อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหมายและการบังคับคดีจังหวัดเชียงราย พร้อมทีมงาน นำพวงหรีดมาไว้อาลัยและพูดคุยซักถามครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงแนะนำสิทธิ์ทางกฏหมายของผู้เสียชีวิต ทายาท และการรับเงินชดเชยจากบริษัทต้นสังกัด ซึ่งต้องมีการนัดหมายเพื่อพบปะพูดคุยในรายละเอียดกันอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นพิธีศพ 

น.ส.โสรยา เรือนมา ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนได้ติดตามข่าวไฟไหม้โรงงานที่สามีทำงานตลอด และพยายามโทรติดต่อหาสามี แต่สามีไม่ได้รับสาย ตอนนั้นตนยังคิดในแง่ดีว่าเขาคงจะติดธุระไม่ว่างรับสาย แต่พอได้รับการติดต่อจากพี่สะไภ้บอกว่าพอจะเดินทางไปที่ รพ.ได้ไหม ถ้าไปได้ให้ไปทันทีเลย ตนก็เลยไปที่ รพ. ก็เลยรู้ว่าสามีประสบอุบัติเหตุขณะทำงานและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทันทีที่ทราบรู้สึกซ็อคจนทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

น.ส.โสรยา กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีลางบอกเหตุอะไรมาก่อน แต่เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อนหน้านี้เหมือนเขาจะฝันว่าตนหนีไปกับผู้ชายคนอื่น เขาก็เลยมาเล่าให้ฟัง ตนก็เลยตอบทีเล่นทีจริงว่าสำหรับตนไม่มีคนอื่นหรอก แต่ถ้าเขาไปมีคนอื่นก่อนก็คงจะมีเหมือนกัน ยอมรับว่าเขาเป็นคนดี ดูแลตนเอง ลูก และครอบครัวอย่างดี แม้ปกติจะเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่เมื่อมีใครเดือดร้อนก็มักจะให้การช่วยเหลือประจำเช่นญาติคนไหนมีปัญหาอะไรก็ยื่นมือให้การช่วยเหลือ ซึ่งการจากไปของสามีทำให้ครอบครัวต้องลำบากแน่นอนเพระาสูญเสียเสาหลัก ปกติจะเป็นคนหาเงินมาเลี้ยงทั้งครอบครัวของตนเอง ทางพ่อแม่ทั้งสองฝั่ง ตอนนี้คนหาเงินได้จากไปแล้วยังไม่รู้ว่าครอบครัวจะอยู่ได้อย่างไร แต่ก็จะพยายามเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด

น.ส.โสรยา ยังกล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือช่วยค่าทำศพและเงินชดเชย ตอนนี้ได้มีทางสำนักงานประกันสังคมได้ช่วยค่าทำศพและชดเชยมาแล้ว ส่วนบริษัทต้นสังกัดก็มีการพูดคุยเบื้องต้นว่าเขาจะช่วยเหลือเต็มที่ ทั้งค่าทำศพและเงินชดเชย รวมถึงส่งเสียลูกให้จนจบปริญญาตรี แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องยอดเงิน ซึ่งจะมีการพุดคุยในเรื่องนี้อีกครั้งหลังเสร็จสิ้นพิธีฌาปนกิจศพ ซึ่งก็อยากให้ทางบริษัทฯหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเลหือสามีในสิทธิ์ที่ควรจะได้อย่างเต็มที่ ในส่วนของครอบครัวก็พยายามที่จะดูแลกันให้ดีที่สุด สำหรับบ้านที่ซื้อในจ.ระยอง ที่ยังผ่อนชำระอยู่ยังไม่ทราบยอดเงินเท่าไหร่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบก่อน และตนก็มีหนี้อีกส่วนหนึ่ง ในส่วนเหล่านี้ที่จะต้องเป็นภาระที่จะต้องดำเนินการในอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับนายนพพร เรือนมา ได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้บริเวณถังจัดเก็บสารประกอบไฮโดรคาร์บอน C9+ ของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (MTT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCC ตั้งอยู่ที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยหลังเกิดเหตุนายนพพร พร้อมกับเพื่อนร่วมงานรวม 4 คน ได้แสดงความเสียสละ และจิตใจที่กล้าหาญพยายามขึ้นไปปิดวาล์วบนถัง ก่อนเกิดการระเบิดขึ้น ซึ่งแรงระเบิดทำให้เขาเสียชีวิตและเพื่อนร่วมงานได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน เหตุเกิดช่วงวันที่ 9 พฤษภาคม 2567ที่ผ่านมา โดยกำหนดพิธีฌาปนกิจจะมีการสวดอภิธรรม เพื่ออุทิศส่วนกุศลเป็นเวลา 4 คืน ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม และจะจัดให้มีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 16 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ที่สุสานบ้านปูแกง ต่อไป  

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ