รวบคาบ้านหรู สองผัวเมียทายาทแหนม ยี่ห้อดังที่ทุกคนรู้จัก โกงเงินบริษัทกว่า 400 ล้าน

Home » รวบคาบ้านหรู สองผัวเมียทายาทแหนม ยี่ห้อดังที่ทุกคนรู้จัก โกงเงินบริษัทกว่า 400 ล้าน
รวบคาบ้านหรู สองผัวเมียทายาทแหนม ยี่ห้อดังที่ทุกคนรู้จัก โกงเงินบริษัทกว่า 400 ล้าน

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 8 พ.ค.2567 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.กรพงศ์ วงษาลังการ, พ.ต.ต.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ, พ.ต.ต.เอื้ออังกูร ชินโชติธีรนันท์, พ.ต.ต.วรัท เสริมสุจริต พ.ต.ท.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.2 บก.ป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 และ 2 บก.ปอท. และ ปปง. กว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 7 แห่ง ใน จ.ปทุมธานี 5 จุด, นครนายก 1 จุด และ นครราชสีมาอีก 1 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันทุจริต บริษัทแปรรูปแหนมดอนเมือง ความเสียหาย 400 ล้านบาท

เป้าหมายจุดสำคัญอยู่ที่บ้านพักของหมู่บ้านหรู ย่านคลอง 2 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งบ้านพักของ นาย ธ. อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน” และ นางสาว น. อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “ลักทรัพย์นายจ้าง, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ, ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน” โดยมีบ้านพักอยู่ในหมู่บ้านนี้ จำนวน 2 หลัง

สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญในคดี  พบเป็นบ้านหรูสองชั้นขนาดใหญ่ มีรั้วรอบขอบชิด แต่มีการเปิดประตูรั้วทิ้งไว้อย่างผิดปกติ จึงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบ แต่ไม่พบบุคคลใดอยู่ภายในบ้านพัก จึงเร่งสืบหาเบาะแสจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองขับรถออกจากบ้านพักไปตั้งแต่เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาเพื่อมุ่งหน้าเดินทางไปทำบุญวันคล้ายวันเกิดแม่ของ นางสาว น. ที่วัดชัยเภรีย์ ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จึงประสานกำลังตำรวจทางหลวงจัดกำลังเร่งไล่ล่าติดตามจนสามารถเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่บริเวณลานจอดรถของวัดดังกล่าว

ส่วนการเข้าตรวจค้นบ้านพักอีกหลังที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง อ.ธัญบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของพี่สาว นางสาว น. เพื่อสืบหาทรัพย์สินที่เชื่อว่าน่าจะได้มาจากการกระทำผิด พบรถหรู ยี่ห้อปอร์เช่ รุ่นคาเยนน์ ของ นางสาว น. จอดเก็บไว้ในโรงจอดรถ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

เสำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2566 เจ้าของบริษัทแปรรูปแหนมดอนเมือง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปชื่อดัง ก่อตั้งมานานกว่า 40 ปี ได้ตรวจพบความผิดปกติภายในบริษัท ที่ทำให้เชื่อว่าน่าจะมีทุจริตเงินของบริษัท จึงส่งตัวแทนเข้าร้องทุกข์กับตำรวจ กก.2 บก.ป. เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนมีการจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสเรื่อยมา จนกระทั่งทราบว่า นางสาว น. หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ ๆ ของเจ้าของบริษัท ที่มอบหมายให้มาทำหน้าที่ดูแลด้านการเงินและบัญชีรายรับ-รายจ่าย เนื่องจากไว้ใจเพราะเป็นลูกหลานแท้ ๆ แต่กลับเป็นผู้ทุจริตลักทรัพย์เงินของบริษัทเสียเอง

จากการสืบสวนตำรวจพบหลักฐานว่า นางสาว น. มีการโอนเงินจากบัญชีธนาคารของบริษัท และนำเช็คของบริษัทที่ออกไว้ให้ชำระค่าสินค้าแก่บริษัทคู่ค้า โอนมาเข้าบัญชีส่วนตัว รวมทั้งเบิกเงินสดตามรายการใบแจ้งหนี้ของบริษัทคู่ค้า แต่ไม่ได้นำไปจ่ายจริง ก่อนจะนำเงินมาเข้ากระเป๋าตัวเอง

จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า นางสาว น. เริ่มทุจริตมาตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปี 2566 รวมกว่า 1,000 ครั้ง ได้เงินไปประมาณ 396,229,584 บาท ก่อนจะยักย้ายถ่ายเทเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินต่าง ๆ เช่น ที่ดินแปลงใหญ่ในพื้นที่ จ.นครนายก บ้านและรถยนต์หรู รวมถึงทรัพย์สินมีค่าอื่น ๆ อีกหลายรายการ ซึ่งทรัพย์สินบางส่วนมีชื่อนายธชธร สามีเป็นผู้ครอบครอง จนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว

ทั้งนี้ นอกจากจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายได้แล้ว เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าน่าจะได้มาจากการกระทำผิดหลายรายการ โดยเฉพาะบ้านพัก โฉนดที่ดิน และ รถหรูยี่ห้อต่างๆหลายคัน ก่อนนำมาตรวจสอบที่ไปที่มาของการได้มาซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้ให้ชัดเจนต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ