จากกรณี หญิง อายุ 59 ปี นักธุรกิจชาวฝรั่งเศส เจ้าของวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย ใช้ปืนจบชีวิตตัวเองริมสระน้ำในวิลล่าหรู ก่อนเสียชีวิตได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมด 100 ล้านบาทให้แม่บ้านคนสนิท หลังทราบป่วยเป็นมะเร็ง เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานจบชีวิตเองเครียดจากโรคร้าย แต่ยังคงเป็นปริศนา เนื่องจากก่อนเธอจะจบชีวิตตัวเอง กล้องวงจรปิดมุมสระน้ำถูกกดลงให้มองไม่เห็นในที่เกิดเหตุ
ล่าสุด รายการลุยชนข่าว ได้ไปพบกับ แม่บ้านคนสนิทของเสียชีวิต พร้อมเปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนได้รู้จักกับผู้เสียชีวิตมากว่า 17 ปีแล้ว โดยตนไปสมัครทำงานเป็นแม่บ้านที่ห้องเช่าของผู้เสียชีวิตก่อน จากนั้นผู้เสียชีวิตก็ได้ขยายธุรกิจจากห้องพักให้เช่า มาสร้างรีสอร์ต สร้างวิลล่า ธุรกิจเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตนก็ได้เป็นแม่บ้านคอยช่วยผู้เสียชีวิตมาตลอด
จนล่าสุดเมื่อ 12 ปีก่อน ผู้เสียชีวิตได้มาซื้อที่ดินบนเกาะสมุย โดยจดทะเบียนเป็นบริษัท เพื่อสร้างวิลล่า จำนวน 5 หลัง และสร้างบ้านวิลล่าหลังนี้ไว้พักอาศัยเอง ตอนนั้นมีผู้เสียชีวิต สามีเก่าของผู้เสียชีวิตและตนซึ่งเป็นแม่บ้าน มีกันเพียง 3 คน มาช่วยกันดูแลในการสร้างวิลล่าหลังนี้ และทำพิธียกเสาเอกด้วยกัน
ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าของวันที่ 28 เมษายน 2567 ตนมาทำความสะอาดบ้านให้ผู้เสียชีวิตตามปกติ หลังจากนั้นช่วงบ่ายตนก็ขอไปทำบุญที่วัดใกล้วิลล่า เนื่องจากเป็นวันเกิดตนพอดี ผู้เสียชีวิตยัง “แฮปปี้เบิร์ธเดย์” อวยพรบอกตนให้มีความสุขมาก ๆ นะ
กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 29 เมษายน 2567 คนงานทำความสะอาดสระน้ำ ได้โทรศัพท์มาหาและบอกว่าผู้เสียชีวิตนอนเลือดไหลอยู่บนวิลล่าใกล้สระน้ำ ตนตกใจมากและรีบขี่รถจักรยานยนต์ไปดูด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อไปถึงก็พบว่า เจ้านายที่ตนรักได้เสียชีวิตแล้ว โดยพบว่ามีปืนวางอยู่ข้างตัวของผู้เสียชีวิต ส่วนกล้องวงจรปิดถูกกดลงให้มองไม่เห็นในที่เกิดเหตุ จากนั้นจึงรีบแจ้งตำรวจทันที
เปิดดูไลน์ปรากฏว่า ก่อนจะเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตได้ส่งข้อความทางไลน์มาให้ตนเพื่อสั่งเสียไว้ทั้งหมด คล้ายกับทำพินัยกรรมไว้ โดยระบุข้อความประมาณว่า ผู้เสียชีวิตได้ยกบ้านวิลล่าหลังนี้พร้อมที่ดิน รวมถึงที่ดินเปล่าข้างวิลล่า จำนวน 2 ไร่ , รถยนต์หรู เครื่องประดับ แหวน เพชร ซึ่งอยู่ในตู้เซฟ และเงินสดที่อยู่ในธนาคารอีกไม่รู้จำนวนยกให้ตนทั้งหมด ซึ่งคาดว่า ทรัพย์สินทั้งหมดมีมูลค่าเกือบ 50 ล้านบาท ที่ผู้เสียชีวิตยกให้กับตนและอีกส่วน คือ วิลล่าจำนวน 2 หลัง ได้มอบให้กับสามีเก่าของผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ ผู้เสียชีวิตยังได้สั่งเสียให้ตนช่วยดูแลแมวอีก 3 ตัวที่เธอรักมากๆ ต่ออีกด้วย ตอนนั้นตนตกใจมากที่ได้อ่านพินัยกรรมที่ระบุไว้ และไม่คิดว่าผู้เสียชีวิตจะทำแบบนี้
แม่บ้านคนสนิทยังบอกอีกว่า ผู้เสียชีวิตยังได้โอนเงินค่าจ้าง ค่าอินเทอร์เน็ต จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟทั้งหมดแล้ว รวมถึงโอนเงินจำนวน 5 แสนบาทให้กับตนเพื่อเป็นค่าทำศพด้วย ซึ่งตนสัญญาจะจัดงานให้ดีที่สุดและจะไม่ลืมพระคุณของผู้เสียชีวิตเลย โดยหลังจากนี้ตนยังไม่ได้คิดว่าจะเอาวิลล่าหลังนี้ไปทำอะไรต่อ แต่คงไม่ขายแน่นอน เช่นเดียวกับรถหรูที่ผู้เสียชีวิตยกให้ ถึงแม้ตนจะขับไม่เป็นก็ตาม
ส่วนสาเหตุที่ผู้เสียชีวิตตัดสินใจจบชีวิตตัวเองคิดว่าน่าจะเกิดจากความเครียด เนื่องจากที่ผ่านมา เธอจะตัดพ้อกับตนอยู่ตลอดว่าตัวเองเจ็บป่วยและทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งที่เป็นอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตป่วยเป็นโรคริดสีดวง ก่อนจะกลายเป็นมะเร็ง ซึ่งตนยังเชื่อมั่นว่า ที่เธอทำนั้นคงอยากไปอย่างสงบ
ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในวิลล่า ก่อนเกิดเหตุวันที่ 28 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 11.00 น. ผู้เสียชีวิตนั่งหน้าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กพิมพ์ข้อความบางอย่าง คาดว่าเป็นการพิมพ์พินัยกรรมเพื่อเป็นการสั่งเสีย จากนั้นเดินเข้าไปภายในบ้าน และได้ใช้ไม้ถูพื้นกดกล้องวงจรปิดที่อยู่ในที่เกิดเหตุก้มลง เพื่อไม่ให้เห็นภาพ ก่อนที่จะพบเสียชีวิต
ภาพสุดท้าย เขียนพินัยกรรม
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานจบชีวิตเองเครียดจากโรคร้าย แต่ยังคงเป็นปริศนา เนื่องจากก่อนหญิงฝรั่งเศสจะยิงตัวตาย วงจรปิดมุมสระน้ำจุดที่เกิดเหตุ มุมกล้องได้ถูกกดลงทำให้ไม่เห็นนาทีก่อเหตุ รวมถึงก่อนหน้านี้วิลล่าของผู้ตายเคยถูกคนร้ายบุกมาขโมยทรัพย์สินมาแล้ว
ล่าสุดวันที่ 2 พ.ค.2567 ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่จะเห็นว่า หญิงฝรั่งเศส ผู้เสียชีวิต น่าจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง โดยภาพจากกล้องวงจรปิดภายในวิลล่า ก่อนเกิดเหตุวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. จากภาพจะเห็นผู้ตายกำลังนั่งอยู่บริเวณโต๊ะทำงาน
โดยมีการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กพิมพ์ข้อความบางอย่าง คาดว่าเป็นการพิมพ์พินัยกรรมเพื่อเป็นการสั่งเสีย จากนั้นผู้ตายได้เดินเข้าไปภายในบ้าน และได้ใช้ไม้ถูพื้นกดกล้องวงจรปิดที่อยู่ในที่เกิดเหตุก้มลง ก่อนที่จะตัดสินใจก่อเหตุสลด ซึ่งภาพนี้เป็นภาพสุดท้ายก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิต