The Sun รายงานเรื่องราวของ โรแวน เบรนแนน เด็กชายอายุเพียง 10 ขวบ ที่บังเอิญไปค้นพบสิ่งล้ำค่าน่าเหลือเชื่อ อายุมากกว่า 2,000 ปี
โดยโรแวนไปพบโลหะสีทอง ที่ดูสกปรก ขณะที่เด็กน้อยพาสุนัขไปเดินเล่นกับแม่ของเขา เมื่อ 2 ปีก่อน เมื่อเอามาทำความสะอาด ก็พบว่ามันลักษณะเหมือนกำไลข้อมือ หน้าตาดูเป็นของโบราณ ก่อนจะนำไปตรวจสอบ จนคาดว่าสมบัติที่โรแวนค้นพบนี้ จริงๆ แล้วมันคือ สร้อยข้อมือทองคำ ยุคโรมัน อายุกว่า 2,000 ปี
ในตอนแรกที่เด็กน้อยหยิบของล้ำค่าชิ้นนี้ขึ้นมาจากพื้น แม่ของน้องบอกให้ลูกโยนทิ้งไปด้วยซ้ำ เพราะคิดว่ามันคือขยะที่พื้นและสกปรก แต่เด็กน้อยกลับรู้สึกว่า มันเป็นของมีค่าที่น่าเก็บไว้ จึงไม่ได้ทิ้งตามที่แม่บอก
ตอนนี้โรแวน อายุ 12 ปี ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า ปกติ เขาชอบเก็บของแปลกๆ ที่เจอตามพื้น เวลาพาหมาไปเดินเล่นอยู่ตลอด แต่กำไลข้อมืออันนี้ ดูพิเศษกว่าทุกชิ้นที่เคยเก็บได้ ขณะที่แม่ของโรแวนก็บอกว่า แม่ต้องคอยบอกให้เขาทิ้งของตามพื้นไป เพราะมันสกปรก แต่เหลือเชื่อเลยว่าของชิ้นนี้ที่ลูกเก็บขึ้นมา มันจะเป็นทองคำแท้ๆ
จุดที่ทำให้สองแม่ลูกรู้ตัวว่าไดเจอของดีเข้าให้แล้ว ก็ตอนที่ไปเจอกับช่างคนหนึ่ง ซึ่งชื่นชอบการหาโลหะตามพื้น เพื่อค้นหาของมีค่า และพอเขาได้เห็นกำไลที่โรแวนเก็บได้ ก็รู้ทันทีว่าเป็นของล้ำค่า และบอกให้แม่เอาไปตรวจสอบดู
อย่างไรก็ตาม กำไลชิ้นนี้ไม่ได้ถูกเอาไปตรวจสอบ และเกือบจะถูกลืมไปแล้ว จนกระทั่งมีการไปขุดพบซากอารยธรรมโบราณ เป็นชุมชนชาวโรมันในอดีต บริเวณเดียวกับที่เด็กน้อยพบกำไลชิ้นนี้
สุดท้ายเมื่อนำมาเชื่อมโยงกัน แม่ของโรแวนจึงยอมเชื่อว่ากำไลที่ลูกเก็บมา น่าจะเป็นของมีค่าจริงๆ จึงนำกำไลไปตามหาเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจสอบวัตถุทางโบราณคดี กำไลอันนี้ถูกส่งไปวิเคราะห์ที่ บริติชมิวเซียม
แม่เด็กเผยว่า “เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจนเสร็จ ก่อนจะส่งอีเมลมาบอกว่า มันเป็นกำไลแบบอาร์มิลลา ของชาวโรมัน ในศตวรรษที่ 1 มันเป็นกำไลทองคำที่มอบให้กับทหารโรมัน เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความเคารพ ความกล้าหาญ แต่สิ่งที่เราพบมันเป็นเพียง “ชิ้นส่วน” ส่วนหนึ่ง ไม่ใช่กำไลทั้งอัน”
ปรากฏว่าของเล็กๆ ที่แม่มองว่าเป็นขยะในวันนั้น กลับกลายเป็นของล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ ที่ถูกเด็กชายตัวน้อยค้นพบโดยบังเอิญ และปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในพิพิธภัณฑ์สถาน