เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 1 เมษายน 2567 ศูนย์สั่งการกู้ชีพปราการได้รับแจ้งสายด่วน 1669 ว่ามี แรงงานต่างด้าวถูกทำร้ายร่างกาย มาตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา แล้วไม่ได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่กลับมานอนเจ็บปวดอยู่ในห้องพักแห่งหนึ่งในชุมชนการเคหะเมืองใหม่บางพลี อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขนาดนี้อาการทรุดหนัก กู้ชีพปราการจึ่งสั่งการให้ทีมกู้ชีพจากโรงพยาบาลรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ พร้อมกับอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางไปช่วยเหลือ
เมื่อถึงบ้านที่เกิดเหตุ พบนายเรกสมาย เติด อายุ 29 ปี แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ซึ่งบาดเจ็บค่อนข้างหนัก จากการบาดเจ็บซ้ำใน เนื่องจากถูกรุมทำร้ายร่างกายมาก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งให้ความช่วยเหลือและนำตัวส่งโรงพยาบาลบางบ่อ เป็นการด่วน
ในคืนเกิดเหตุ
ด้าน นายสุขาซอย ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ช่วงกลางดึกของวันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้บาดเจ็บรายนี้ ซึ่งมีอาการเมาสุรา เดินถือมีดไปหาวงสุราที่ท้ายซอย C 4 ริมคลอง ก่อนจะถูกคนในวงเหล้าทั้งหมด 3 คน รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา กู้ภัยและตำรวจพยามพาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่ฝ่ายภรรยาของผู้บาดเจ็บบอกว่าไม่มีสิทธิ์การรักษาที่ไหนและไม่มีเงินไปหาหมอ จึงต้องพากับมานอนพักที่ห้องพักแห่งนี้ จนอาการทรุดหนัก
- ไรเดอร์สุดงง! เจอลูกค้าสั่งถุงยาง ก่อนส่งภาพหวิวพร้อมชวนขึ้นไปดู
- ตามล่า! คนร้ายขี่จยย.ชี้เป้า ก่อนชักลูกซองลั่นไกใส่ เด็ก 14 ดับ 1 สาหัส 1
- จนท. เข้าพื้นที่ โรงงานเครนถล่ม จ่อสอบผู้บริหาร ปม ฝังศพแรงงานบนเนินเขา
ขณะที่ พี่สาวของผู้บาดเจ็บ บอกว่า หลังจากทราบเรื่องว่าน้องชายถูกรุมทำร้ายจนบาดเจ็บช่วงค่ำวานนี้ตนเองเดินทางมาดูน้องที่ห้องพบว่านอนนิ่ง ซึม แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีอาการหนัก จึงให้ภรรยาของน้องชายป้อนยาแต่ก็อาเจียนออกมาหมด กระทั่งต้องกลับไปหาเงิน เพื่อพาน้องไปรักษาตัวจนมาวันนี้มาถึงพบว่าน้องมีอาการทรุดจึงตัดสินใจโทรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
ส่วนภรรยา ยอมรับว่า หลังเกิดเหตุตนเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรเพราะเอกสารบัตรของผู้บาดเจ็บขาดอายุหมดไม่มีสิทธิ์การรักษาที่ไหน อีกทั้งไม่มีเงินจะพาไปโรงพยาบาลจึงต้องเอาแฟนหนุ่มมานอนพักที่ห้องเพื่อรอเงินจากพี่สาวของแฟน จนแฟนอาการทรุดหนักดังกล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ได้เร่งให้ความช่วยเหลือและจะประสานทางตำรวจ สภ.บางเสาธง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย