พูดถึงฟิล์มกันรอย ทุกวันนี้มีให้เลือกเยอะมาก แต่แบบไหนที่ใช้และดีสำหรับคุณบ้าง วันนี้ Sanook Hitech มีคำตอบให้คุณได้ลองเลือกกันครับ
ชนิดของฟิล์มกันรอยมือถือ
1. ฟิล์มกันรอยแบบใส:
ข้อดี:
- ราคาถูก
- ติดตั้งง่าย
- รักษาความคมชัดของหน้าจอ
- มีหลายรุ่น หลายยี่ห้อให้เลือก
ข้อสังเกต:
- ป้องกันรอยขีดข่วนได้ไม่ดีเท่าฟิล์มแบบอื่น
- กันรอยนิ้วมือได้น้อย
- อาจเกิดรอยนิ้วมือและคราบน้ำมันได้ง่าย
2. ฟิล์มกันรอยแบบด้าน:
ข้อดี:
- ป้องกันรอยนิ้วมือและคราบน้ำมันได้ดี
- ลดแสงสะท้อนจากหน้าจอ
- เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เล่นมือถือนานๆ
- ช่วยให้เขียนบนหน้าจอได้ลื่นไหล
ข้อสังเกต:
- หน้าจออาจดูมืดลงเล็กน้อย
- ลดความคมชัดของหน้าจอ
- อาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย
3. ฟิล์มกระจกนิรภัย:
ข้อดี:
- ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี
- ป้องกันแรงกระแทกได้ดี
- หน้าจอสัมผัสลื่นไหล
- มีหลายรุ่น หลายยี่ห้อให้เลือก
ข้อสังเกต:
- ราคาสูง
- ติดตั้งยากกว่าฟิล์มแบบอื่น
- อาจเกิดรอยแตกหรือร้าวได้
4. ฟิล์มกันรอยแบบถนอมสายตา:
ข้อดี:
- กรองแสงสีฟ้าจากหน้าจอ
- ช่วยลดอาการตาล้า
- เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เล่นมือถือนานๆ
ข้อสังเกต:
- หน้าจออาจดูเหลืองลงเล็กน้อย
- ลดความคมชัดของหน้าจอ
- ราคาสูงกว่าฟิล์มแบบอื่น
5. ฟิล์มกันรอยแบบเพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือ Privacy Film
ข้อดี:
- ป้องกันผู้อื่นมองเห็นหน้าจอจากด้านข้าง
- เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
ข้อสังเกต:
- หน้าจออาจดูมืดลง
- ลดความคมชัดของหน้าจอ
- ราคาสูงกว่าฟิล์มแบบอื่น
วิธีเลือกฟิล์มให้เหมาะกับคุณ
การเลือกฟิล์มมือถือ ที่เหมาะกับคุณลต้องลองกศึกษาทั้งตัวอย่างที่เห็นว่าเหมาะสมหรือไม่ เลือกติดกับร้านที่เชื่อถภือได้ และการเลือกซื้อยี่ห้อที่ไว้ใจได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีเช่นเดียวกันครับ
ครั้งหน้า Sanook Hitech จะมี Tips และเทคนิคอะไรมาเล่าให้คุณได้อ่านต่อ อย่าลืมกลับมาติดตามกันนะครับ