เว็บไซต์ nypost รายงานข่าวสะเทือนวงการศึกษา เมื่อคุณแม่รายหนึ่งถูกตำรวจจับกุมข้อหา “ผสมน้ำ” ให้เพื่อนลูกชายดื่ม แต่สุดท้ายพอความจริงปรากฏ กระแสชาวเน็ตตีกลับมายืนข้างคุณแม่เต็มตัวกันถ้วนหน้า
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อ เจนนิเฟอร์ ลินน์ รอสซี วัย 45 ปี ให้การยอมรับว่า ลูกชายของเธอวัย 11 ปี โดนเพื่อนร่วมชั้นกลั่นแกล้งและขโมยน้ำดื่ม ทำให้วันรุ่งขึ้น เธอจึงนำน้ำมะนาว, เกลือ, น้ำส้มสายชู และเครื่องดื่มเกลือแร่ มาผสมใส่ขวดให้ลูกชายพกไปโรงเรียน พร้อมกำชับว่าให้เจ้าเพื่อนคนนั้นดื่มซะ
เหตุการณ์เป็นไปตามแผนที่ เจนนิเฟอร์ คาดหวังไว้ เมื่อเพื่อนจอมแกล้งคนเดิมได้ทำการขโมยน้ำดื่มของลูกชายเธอ ก่อนจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และปวดหัว จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แต่จากการตรวจสอบทางการแพทย์ไม่พบว่ามีสารพิษแต่อย่างใด พยาบาลเฝ้าดูอาการเด็กจอมขโมยน้ำดื่ม และปล่อยให้กลับบ้านได้หลังจากนั้นไม่นาน
เจนนิเฟอร์ ถูกตั้งข้อหาทำร้ายเด็ก ซึ่งเธอได้รับการประกันตัวและมีกำหนดพิจารณาคดีในเดือนเมษายน โดยเธอเผยว่าพร้อมรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และในฐานะอาชีพพยาบาล เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เธอทำนั้นไม่ได้ทำให้เด็กตกอยู่ในภาวะอันตรายเกินไปอย่างที่ถูกกล่าวหา
โดยหลังจากเรื่องนี้กลายเป็นข่าวดัง ก็ทำให้ชาวเน็ตหลายคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงประเด็นนี้ มีทั้งบอกว่า เธอควรได้รับโทษเพราะทำความผิดจริง แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ข้าง “ทีมแม่” กันถ้วนหน้า เช่น
– “เธอโดนจับเพราะปกป้องลูกตัวเอง และไม่ได้ทำอะไรรุนแรงเลย”
– “ตัวแม่ตัวมัมของจริง ถ้าเป็นลูกฉันโดนบ้าง ฉันอาจเอาคืนมากกว่านี้อีก”
– “มันอาจเกินไปบ้าง แต่งานนี้คนผิดจริงๆ คือเด็กที่ชอบแกล้งเพื่อนและขี้ขโมยไม่ใช่เหรอ?”
– “จับเธอได้ไง? เธอควรได้รับรางวัลคุณแม่ดีเด่นด้วยซ้ำ”
แล้วคุณผู้อ่านละคิดเห็นเช่นไรกับคดีนี้?