กลายเป็นคลิปที่สะเทือนใจไปทั่วโลกโซเชียล เมื่อมีการเผยแพร่คลิปของนักเรียนหญิงในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช โดยเป็นภาพที่นักเรียนหญิง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ถูกกลุ่มเพื่อนทำร้ายอย่างทารุณ ทั้งกระชากศีรษะ ตบตีอย่างรุนแรงและยังจับศีรษะโขกกับโต๊ะเรียนหลายครั้ง เมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียลทำให้มีคนแชร์อย่างล้นหลามและรวดเร็ว

จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า นักเรียนหญิงที่ถูกทำร้ายเป็นนักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาเขต 1 จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยต้นเหตุการทำร้ายร่างกายนั้นเกิดจากการที่ นักเรียนกลุ่มที่เป็นผู้ก่อเหตุ ได้เอาโทรศัพท์มือถือไปถ่ายใต้กระโปรงนักเรียนของเด็กที่โดนทำร้าย แต่ว่าเด็กที่ถูกทำร้ายเห็นก่อน จึงเอาเท้าไปเหยียบโทรศัพท์และบังกล้องไว้ ทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่พอใจ และกล่าวหาเพื่อนว่า “มึงให้ตีนกู” จากนั้นจึงตามไปทำร้ายร่างกายในห้องเรียนตามคลิปที่ปรากฏในโลกโซเชียล

• ไวรัล! ชีวิตทหารเกณฑ์ อยู่บ้านนาย ซักผ้าให้นายไม่พอ ยังต้องซักให้เมียด้วย

• สุดหลอน! มือปริศนาโผล่กลางคลอง พอเอาไม้เขี่ยดู ถึงกับผงะ

• ทาสหมาน้ำตาคลอ! เพจดังจ่อเอาผิดเจ้าของไร่มัน วางยาเบื่อสุนัขวันเดียว 12 ตัว

ล่าสุด เด็กที่โดนทำร้ายร่างกาย นั้นเจ็บหนักจนต้องนอนโรงพยาบาลถึง 2 วัน โดยครอบครัวผู้เสียหายยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะทางผู้ก่อเหตุและครอบครัวไม่มีการติดต่อเข้ามาเพื่อขอโทษหรือรู้สึกผิดต่อการกระทำดังกล่าวของตนเองเลย ทั้งๆที่เรื่องนี้เกิดตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2567 แต่ทางผู้ก่อเหตุกลับเงียบเฉย

ทางด้านครอบครัวของเด็กที่ถูกทำร้ายนั้นเล่าว่า หลังเกิดเหตุตนได้เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยแม่เล่าว่าเด็กที่ทำร้ายลูกสาวของตน เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันแต่ตัวใหญ่กว่าลูกสาว และแม่ได้ไปพบกับ ผอ. โรงเรียนดังกล่าว แต่ ผอ. นั้นไม่ยอมให้ดูคลิปต้นฉบับที่มีความยาวกว่า 5 นาที และยังได้ยืนยันกับครอบครัวผู้เสียหายว่าคลิปดังกล่าวจะไม่หลุดไปในโลกโซเชียลอย่างแน่นอน และทางโรงเรียนยืนยันว่าจะนัดผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุมาไกล่เกลี่ย แต่คลิปต้นเหตุดันหลุดออกไปในโลกโซเชียลและเป็นประเด็นซะก่อน

ขณะที่ นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ศึกษาธิการจังหวัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง และให้ทางโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลเยียวยาสภาพจิตใจของนักเรียนที่บาดเจ็บและให้การช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด