กรุงเทพเป็นที่รู้จักและขึ้นชื่อในเรื่องตลาดกลางคืนที่คึกคัก อาหารข้างทางที่น่าตื่นตาตื่นใจ และกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น วัดและตลาดน้ำ แต่บางครั้งสภาพอากาศอาจส่งผลต่อแผนการท่องเที่ยวของคุณ ไม่ว่าคุณต้องการที่จะหลีกหนีจากความร้อนหรือฝนตก นี่คือลิสต์กิจกรรมในร่มยอดฮิตในกรุงเทพที่คุณสามารถเพิ่มลงในแผนการเดินทางของคุณได้!
1. ช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า
คุณจะพบห้างสรรพสินค้ามากมายในกรุงเทพฯ ซึ่งในบริเวณสยามจะมีห้างสรรพสินค้า 9 แห่งและบริเวณราชประสงค์เพียง 1 แห่ง! และไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน รับประกันได้ว่าจะมีช่วงเวลาดีๆ ไม่ว่าคุณจะไปช้อปปิ้ง ทานอาหาร หรือแม้กระทั่งพักผ่อนสบายๆ ภายในห้างสรรพสินค้า
สยามพารากอน เป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำสำหรับแบรนด์ระดับไฮเอนด์ โดยมีโรงภาพยนตร์ คิดส์ซาเนีย และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่อยู่ภายใน หากคุณเบื่อการรับประทานอาหารและช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม เราแนะนำให้ไปที่สยามพรีเมียมเอาท์เล็ตหรือเซ็นทรัลวิลเลจ ซึ่งคุณจะพบกับแบรนด์อย่าง Coach และ Balenciaga ที่ลดราคาตลอดทั้งปี
เทอร์มินัล 21 ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการรับประทานอาหารและการถ่ายรูปเช็คอิน โดยมักจะมีอีเว้นท์เป็นธีมต่างๆ (แต่ละชั้นมีธีมที่แตกต่างกัน!) และร้านอาหารชื่อดังมากมาย หากต้องการของพรีเมียมสวยงาม เราแนะนำให้ไปที่ไอคอนสยาม ซึ่งคุณจะได้พบกับแบรนด์ท้องถิ่นอย่าง NaRaYa แบรนด์ต่างประเทศ และร้านอาหารชื่อดัง!
2. เปิดประสบการณ์โกคาร์ทในร่ม
อีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความตื่นเต้นขณะอยู่ในที่ร่ม คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์ขับโกคาร์ทได้ที่นี่! ปลดปล่อยหัวใจของคุณออกไปบนสนามแข่งกับเพื่อน ครอบครัว และคนที่คุณรัก หลังจากที่คุณได้เลือกรถโกคาร์ทและความเร็วที่ต้องการแล้ว ประสบการณ์นี้เหมาะสำหรับทุกวัย ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องกังวล หากคุณวางแผนจะพาลูกๆ ไปซิ่งด้วย เมื่อคุณพร้อมแล้ว เรามาเริ่มการแข่งขันได้เลย!
3. พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
คุณอาจเคยเห็นรูปถ่ายของวัดนี้ในโซเชียลของคุณบางแล้ว ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม ที่นี่ถึงเป็นที่นิยมอย่างมาก! รูปปั้นช้างสามเศียรขนาดยักษ์ที่น่าประทับใจในวัดสีชมพูนั้นมีความโดดเด่น เหมาะในการถ่ายภาพโพสลงในโซเซียล!
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคุณเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คุณจะได้พบกับแก้วหลากสีสันที่ตกแต่งไปตามบันไดวน หลังคากระจกสี และภาพจิตรกรรมฝาผนังบนเพดานอันงดงาม ซึ่งคุ้มค่าแก่การเยี่ยมชมอย่างมาก!
4. ช้อปปิ้งที่บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ ราชดำริ
ช้อปปิ้งอาหารนั้นเป็นสิ่งจำเป็นไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน! และในกรุงเทพ หนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการซื้อมันฝรั่งทอด Lay’s และมาม่า คือ บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ ราชดำริ ซึ่งมีของหลากหลายประเภท ตั้งแต่มันฝรั่งทอด ของขบเคี้ยว สาหร่าย ไปจนถึง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและชานมนอกจากนี้ยังจำหน่ายอาหารสด เครื่องสำอาง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ สำหรับกรณีที่คุณต้องการสินค้าเพิ่มเติมในระหว่างการเดินทางหรือซื้อกลับบ้าน เพราะที่นี่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตนั่นเอง
5. คลาสเรียนทำอาหารไทย
สำหรับการท่องเที่ยวในไทยคุณจะพบกับอาหารไทยต้นตำรับชั้นยอดที่มีฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ดังนั้นคุณสามารถเรียนรู้จากปรมาจารย์ด้านการทำอาหารไทยตัวจริงได้จากที่นี่ เพื่อที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับอาหารไทยที่น่าตื่นตาตื่นใจได้ตลอดเวลา แม้ว่าคุณจะเดินทางกลับถึงบ้านแล้วก็ตาม
คลาสเรียนทำอาหารไทยที่ Sompong Thai Cooking School คุณจะถูกพาไปยังตลาดท้องถิ่น เพื่อทำความคุ้นเคยกับวัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่น และเลือกซื้อวัตถุดิบสำหรับการเรียนทำอาหารของคุณ จากนั้น คุณจะได้เรียนวิธีการเตรียมและปรุงแกงไทย ของหวาน และอาหารจานหลักยอดนิยมอื่นๆ ก่อนที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับมื้ออาหารที่คุณทำเอง นอกจากนี้ คุณยังจะได้รับสูตรการทำอาหารกลับบ้านด้วย เพื่อที่คุณจะได้ไม่ลืมวิธีทำ!
คุณยังสามารถเลือกที่จะเรียนการทำอาหารจาก Blue Elephant หนึ่งในร้านอาหารไทยที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงเทพฯ แต่ละวันในสัปดาห์จะมีลิสต์อาหารที่แตกต่างกัน ดังนั้นอย่าลืมเช็คเวลาและเลือกวันเรียน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้เรียนรู้วิธีทำอาหารที่คุณต้องการ!
6. ชมการแข่งขันมวยไทยที่ เวทีราชดำเนิน
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอะดรีนาลีนที่จะพลุ่งพล่าน ในขณะที่คุณชมมืออาชีพตัวจริงต่อสู้กันบนสังเวียนด้วยทักษะมวยไทย ด้วยการแข่งขันเก้านัดในแต่ละคืน คุณจะต้องประหลาดใจกับจำนวนแฟนมวยที่เดินทางเข้าชมการแข่งขันมวยไทยในแต่ละคืนที่มีแฟนมวยทั้งในและต่างประเทศอย่างหนาแน่นหากคุณยังสนุกกับการแข่งขัน คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับมวยไทยด้วยตนเองได้ในคลาสเรียนมวยไทย การเรียนรู้ทักษะศิลปะการต่อสู้ถือเป็นเรื่องดี แม้ว่าคุณจะไม่จำเป็นต้องใช้มันในสถานการณ์จริงก็ตาม! จองที่นั่งการแข่งขันมวยไทยที่นี่!
7. ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชี่ยน เวิลด์ (SEA Life Bangkok Ocean World)
ประกอบด้วยสถานที่ท่องเที่ยวภายในที่แตกต่างกัน 14 แห่ง มีสัตว์ทะเลมากกว่า 400 สายพันธุ์ และสัตว์ทะเลมากกว่า 30,000 ตัว คุณจะได้ตื่นตาตื่นใจกับความมหัศจรรย์ของชีวิตใต้ทะเล เมื่อคุณเข้าสู่ SEA Life Bangkok Ocean Worldผู้ที่ชื่นชอบในการเข้าชมพื้นที่ในธีมต่างๆ ซึ่งที่นี่มีตั้งแต่การชมแนวปะการังและม้าน้ำ การสำรวจสัตว์ทะเล รวมถึงพื้นที่ในป่าฝนที่อเมซอน ไปจนถึงสัตว์ทะเลที่พบในมหาสมุทร เช่น ปลาฉลามและปลากระเบนที่นี่คุณสามารถลองนั่งเรือท้องกระจก เพื่อดูสัตว์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด หรือแม้แต่การว่ายน้ำกับฉลามในอุโมงค์ใต้มหาสมุทร หากคุณต้องการความตื่นเต้นในอีกรูปแบบหนึ่ง คุณสามารถไปที่โรงภาพยนตร์ 4 มิติ เพื่อชมภาพยนตร์เกี่ยวกับท้องทะเลได้อีกเช่นกันจองตั๋วซีไลฟ์ แบงคอก โอเชี่ยน เวิลด์ ที่นี่!
8. คาลิปโซ่ คาบาเร่ต์ โชว์ (Calypso Cabaret Show)
ประเทศไทยมีชื่อเสียงในด้านการแสดงคาบาเร่ต์ที่นำแสดงโดยเลดี้บอย และมีชื่อเสียงที่สุดในพัทยา – ทิฟฟานี่โชว์ หนึ่งในการแสดงคาบาเร่ต์ในพัทยาที่จัดประกวดความงามประจำปีสำหรับผู้หญิงข้ามเพศ!หากคุณต้องการชมการแสดงคาบาเรต์ เราแนะนำให้ไป คาลิปโซ่คาบาเร่ต์โชว์ ที่เอเชียทีค คุณจะไม่รู้สึกเบื่อตลอดการแสดงในพัทยา เช่นเดียวกับการแสดงอื่นๆ ในพัทยา โดยแต่ละการแสดงจะเต็มไปด้วยการเต้นรำและเครื่องแต่งกายสุดอลังการมากมาย คุณจะรู้สึกเหมือนกำลังดูการแสดงบรอดเวย์เลย!จองตั๋วคาลิปโซ่คาบาเร่ต์ของคุณที่นี่!
9. เข้าใช้บริการนวด
กิจกรรมที่ต้องทำในกรุงเทพฯ การท่องเที่ยวครั้งนี้จะไม่มีวันสมบูรณ์ได้ หากไม่ได้ทำการนวดและยืดเส้นยืดสาย หรือการทำสปา เพื่อการผ่อนคลาย! ประเทศไทยขึ้นชื่อในด้านการนวดที่ดีที่สุด ดังนั้นคุณจึงสามารถเลือกทรีตเมนต์ได้หลากหลาย ไม่ว่าคุณกำลังมองหาการนวดแผนไทย นวดเท้า หรือแม้แต่การขัดผิวหน้าและผิวกาย คุณก็สามารถทำได้ทั้งหมด!เลือกสปาทรีตเมนต์และการนวดผ่อนคลายที่น่าทึ่งเหล่านี้!
10. บางกอกโฟลเซ็นเตอร์ (Bangkok Float Center)
เพิ่มประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างหนึ่งให้กับการเดินทางครั้งนี้ — การบำบัดด้วยการลอยน้ำ! การบำบัดประเภทนี้เป็นอีกวิธีหนึ่งวิธีในการบรรเทาความเครียดและคลายความกังวลของคุณได้อย่างแท้จริงการบำบัดด้วยการลอยน้ำ เริ่มต้นก้วยการที่คุณเข้าไปในอ่างสำหรับลอยน้ำที่จะทำให้คุณลอยตัวเป็นเวลา 60 ถึง 90 นาที เมื่อคุณอยู่ในอ่างแล้ว คุณสามารถเข้าสู่การทำสมาธิได้แบบลึกซึ้ง ซึ่งจะทำให้ความตึงเครียดทางร่างกายและจิตใจทั้งหมดผ่อนคลายลงผ่อนคลายไปกับการบำบัดด้วยการลอยตัวที่ Bangkok Float Center!
11. สัมผัสประสบการณ์กระโดดแบบฟรีสไตล์ที่ Bounceinc
หากคุณชอบกิจกรรมแบบใช้พลัง Bounceinc ในกรุงเทพฯ น่าจะเป็นสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด! ประสบการณ์การกระโดดนี้จะทำให้คุณตื่นเต้นได้ในระยะเวลาหนึ่งหรือสองชั่วโมง เนื่องจากที่นี่มีหลายโซนให้สำรวจ เช่น X-Park โซนแทรมโพลีนที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวาง The Wall โซนแทรมโพลีนแนวตั้งที่สมบูรณ์แบบ สำหรับการเล่นฟรีสไตล์และการวิ่งบนกำแพง , Slam Dunk โซนแทรมโพลีนพร้อมห่วงบาสเก็ตบอล และ Free-Jump Arena โซนยอดนิยม ซึ่งคุณสามารถกระโดดและเด้งได้ตามสไตล์ที่คุณต้องการ!
12. เปิดประสบการณ์เกมเสมือนจริงที่ Total VR Bangkok
หากคุณเดินทางกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ลองมาเปิดประสบการณ์เกม VR นี้ น่าจะเหมาะสำหรับคุณ!การเปิดประสบการณ์เกม VR นี้ เริ่มต้นเมื่อคุณเลือเกมที่ต้องการเล่นเกมต่างๆ เช่น Private Property, Ohshapee, Baam Squad, Five Nights at Freddy’s, Rick and Morty และ Affected: The Manor หากคุณเป็นมือใหม่ คุณสามารถลองเล่นเกมอย่าง Paper Fire Rookie Arcade, Thundergod, Boneworks และ Crisis Vrigade ได้ ที่นี่มีเกมให้เลือกมากมาย และหากคุณต้องการเล่นให้ได้มากที่สุด เราขอแนะนำให้เลือกแพ็คเกจการเล่นแบบ 2 ชั่วโมง!
13. บุฟเฟ่ต์อาหารค่ำโรงแรมใบหยกสกาย (Baiyoke Sky Hotel)
ที่นี่คือที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์มุมกว้างของกรุงเทพฯ ด้วยบุฟเฟ่ต์อาหารค่ำที่เสิร์ฟบนชั้น 78 ที่โรงแรมใบหยกสกาย ดื่มด่ำไปกับแสงไฟระยิบระยับในขณะที่คุณรับประทานอาหารรสเลิศได้มากมาย เช่น อาหารทะเลนึ่งหรือย่างและซูชิ รวมถึงอาหารไทยยอดนิยม เช่น ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อและข้าวเหนียวมะม่วง!ในขณะที่เดินทางมาที่นี่ อย่าลืมแวะไปที่จุดชมวิวของใบหยกบนชั้น 77 และจุดชมวิวบนชั้น 84 หลังรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว สายลมที่พัดมาสัมผัสบนใบหน้าของคุณควบคู่ไปกับแสงไฟระยิบระยับยามค่ำคืนจะทำให้คืนนี้เป็นค่ำคืนที่น่าจดจำสำหรับคุณ
14. ผ่อนคลายกับการแช่ออนเซ็นและสปาที่ Let’s Relax Onsen and Spa
คุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อแช่ออนเซ็น แค่มาเที่ยวที่กรุงเทพก็สามารถทำได้ 😉Let’s Relax Onsen and Spa ที่ทองหล่อ คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์สปาแบบญี่ปุ่น เพื่อการผ่อนคลายด้วยแพ็กเกจต่างๆ ที่รวมทรีตเมนต์ผิวหน้า บริการนวดและสครับต่างๆ มากมาย!
“สำรวจกิจกรรมทั้งหมดในไทย กับ Klook ได้ที่นี่”